สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 ปิดที่ 1,653.11 จุด ปรับตัวลดลง -5.60 จุด คิดเป็น -0.34% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,667.01 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,649.50 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 50,123.15 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,102.30 จุด ปรับตัวลดลง -3.44 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.08% หลังจากการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ไม่ได้ลงรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนเศรษฐกิจในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากตลาดได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งความหวังที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้า
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง ในขณะที่นักลงทุนต่างจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ รวมทั้งผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
ตลาดหุ้นจีน ปิดทำการ เนื่องในวันตรุษจีน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 0.59% โดยได้รับปัจจัยลบจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ และหุ้นกลุ่มรถยนต์ที่ปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิลดช่วงลบ เนื่องจากตลาดได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป หลังจากบริษัทประกาศแผนซื้อคืนหุ้นเมื่อวานนี้
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,055.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +3.50 บาท คิดเป็น +1.94%
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,858.01 ล้านบาท ลดลง -1.75 บาท คิดเป็น -2.24%
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,112.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.51%
4. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,098.22 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5. EA มูลค่าการซื้อขาย 1,892.74 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.50%
ดัชนีขยับขึ้นไปทำ New high ต่อเนื่องและปิด GAP ที่เปิดเอาไว้เมื่อ 9 สัปดาห์ที่แล้วได้ แต่ก็ถูกขายทำกำไรกลับลงมาเช่นกันโดยหลุดลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันเรียบร้อย
ซึ่งวันนี้(8) เส้นดังกล่าวจะขยับขึ้นมาแถวๆ 1,654 จุด หากดัชนีดีดกลับขึ้นปิดเหนือเส้นดังกล่าวได้ จึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นไปแถวๆ จุดสูงสุดเดิมที่ 1,667 จุดอีกครั้ง แต่ถ้าดัชนีหลุดปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันต่อเนื่อง ดัชนีน่าจะไหลกลับลงมาทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,645-1,644 จุดได้อีกครั้ง
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
