สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2562 ปิดที่ 1,635.88 จุด ปรับตัวลดลง -3.79 จุด คิดเป็น -0.23% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,643.56 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,634.70 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 38,219.30 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,087.12 จุด ปรับตัวลดลง -1.98 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 0.58% ขณะที่ดัชนี S&P500 ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ และการฟื้นตัวของหุ้นโบอิ้ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากรัฐสภาอังกฤษมีมติไม่เห็นชอบต่อการที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไร้ข้อตกลง
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรปอย่างใกล้ชิด
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลง 1.20% หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนได้เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลงในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดขยับลง 0.02% เนื่องจากแรงซื้อที่ได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐนั้น ได้ถูกสกัดด้วยปัจจัยลบที่เกิดจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,296.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.52%
2. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,567.90 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.37%
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,295.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.36%
4. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,245.70 ล้านบาท ลดลง -1.00 บาท คิดเป็น -0.82%
5. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 985.42 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.32%
ดัชนีมีความพยายามปรับตัวขึ้นต่อทำ New high ในช่วงเช้าในลักษณะกระโดดเปิด GAP เล็กน้อย โดยขยับขึ้นไปแถวๆ แนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันบริเวณ 1,645 จุดแต่ไม่ผ่าน จึงมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมาตลอดทั้งวัน กดให้ดัชนีลงมาติดลบในที่สุดและหลุดแนวรับสั้นๆ ที่ 1,637 จุด แต่ไม่หลุดแนวรับสำคัญเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันซึ่งวันนี้(15) จะขยับมาแถวๆ 1,633 จุด หากวันนี้ดัชนีไม่อ่อนตัวกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าสองเส้นดังกล่าวซะก่อน ดัชนียังน่าจะมีลุ้นดีดกลับผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 1,643 จุดอีกครั้ง ปิดได้ค่อยเพิ่มลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
