สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 10 เมษายน 2562 ปิดที่ 1,662.13 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.39 จุด คิดเป็น +0.26% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,664.68 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,658.26 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 43,621.28 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,108.81 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.44 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 0.72% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) คิดเป็นมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารยุโรป และการประชุมของผู้นำประเทศสหภาพยุโรป เกี่ยวกับเส้นตายการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพ
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดขยับขึ้น 0.07% ในขณะที่นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ภายหลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ และการที่สหรัฐเตรียมเก็บภาษีสินค้านำเข้าหลายรายการของสหภาพยุโรป
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ 0.53% หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นและเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐ และสหภาพยุโรป (EU)
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,639.80 ล้านบาท ลดลง -8.00 บาท คิดเป็น -1.69%
2. PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,273.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท คิดเป็น +0.52%
3. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,597.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.71%
4. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,373.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +3.50 บาท คิดเป็น +1.87%
5. PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,327.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +0.76%
ดัชนีปรับตัวขึ้นทำ New high ต่อเนื่องหลังจากผ่านขึ้นมาแถวๆ เส้น BollingerTop ได้ โดยขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,664 จุดแต่ยังไม่ผ่าน ซึ่งดัชนีสามารถยืนระยะปิดได้ในระดับสูงของวันในที่สุด หากวันนี้ดัชนีประคองตัวปิดเหนือแนวรับระยะสั้นเส้น BollingerTop แถวๆ 1,662 จุดได้ต่อเนื่อง ดัชนีจึงจะมีลุ้นปรับตัวขึ้นต่อได้อีกแถวๆ 1,674-1,679 จุดต่อไป แต่ถ้าปิดไม่ได้ดัชนีก็จะซึมกลับลงมาฟอร์มตัวใหม่แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 200 วันที่ 1,655-1,654 จุดอีกครั้ง
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
