นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ประเมิน ตลาดหุ้นไทยและการลงทุนในสัปดาห์นี้ (22-26 เม.ย.) ว่า ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ ได้แรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศที่เป็นบวกเช่นเดียวกับหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาการค้าสหรัฐฯกับประเทศต่างๆ ที่มีโอกาสที่ตกลงกันได้ด้วยดี ยกเว้นยุโรป ซึ่งช่วยลดความกังวลต่อผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ขณะที่ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวได้ในระดับสูง เป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน

ทั้งนี้ นักลงทุนได้กลับเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่ต่อเนื่อง KTBST มองว่าเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย หลังจากปัจจัยต่างประเทศหลายเรื่องได้กดดันตลาดหุ้นทั่วโลกมาตั้งแต่ปีก่อนหน้านั้นลดลง ทำให้ปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นโลกขยับขึ้นจากจุดต่ำสุดของปีก่อนในเดือนธ.ค. ถึง 15%

ส่วนปัจจัยในประเทศ ประเด็นหลักคือเรื่องทิศทางการเมือง แม้จะประเมินว่าการตั้งรัฐบาลจะผ่านไปได้และไม่เป็นผลลบต่อตลาดหุ้น แต่ คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส. และต้องรอการจัดตั้งรัฐบาลหลังวันที่ 9 พ.ค. ทำให้ นักลงทุนต่างประเทศจะยังไม่เข้ามาลงทุนในช่วงนี้ แต่ตลาดได้ปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวและใช้จ่ายในประเทศ ซึ่งเป็นผลทางจิตวิทยามากกว่าเรื่องเงินและจะมีมาตรการอื่นๆ ออกมาอีก ขณะเดียวกันการรายงานกำไรและการคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทต่างๆ ในไตรมาส 1 จะทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรมากขึ้นในหุ้นที่คาดว่างบการเงินจะออกมาดี นอกจากนี้ ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ในสัปดาห์นี้ได้แก่ รายงานตัวเลขส่งออกไทย และ ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของสหรัฐ

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ KTBST ประเมินว่า ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวบวกต่อได้ แต่อาจจะไม่มาก หากไม่มีข่าวในเชิงบวกเข้ามาหนุนตลาด ขณะที่ปัจจัยการเมืองยังไม่เป็นประเด็นที่สนับสนุนตลาด แต่ดัชนีมีโอกาสเดินหน้าขึ้นด้วยแรงส่งจากหุ้นขนาดใหญ่ รวมทั้งหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเก็งผลประกอบการไตรมาส 1 โดยหุ้นที่ KTBST แนะนำในสัปดาห์นี้ ได้แก่ PTTEP, EA, AP, BCH, KCE, SAWAD, RS คาดกรอบดัชนีฯที่ 1,665-1,690 จุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน