สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 22 มีนาคม 2560 ปิดที่ 1,566.66 จุด ปรับตัวลดลง -2.12 จุด คิดเป็น -0.14% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,569.99 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,558.00 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 35,245.30 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 992.07 จุด ปรับตัวลดลง -1.89 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.14% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษี และการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงช่วงเปิดตลาด ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ และตลาดหุ้นเอเชียที่เคลื่อนไหวแดนลบ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดปรับตัวลง 0.50% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่มีการเทขายเข้ามา
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 2.13% โดยดัชนีปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐนั้น อาจจะใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. CPF มูลค่าการซื้อขาย 3,287.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +5.41%
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,466.86 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.42%
3. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,431.84 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง
4. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 952.12 ล้านบาท ลดลง -2.50 บาท คิดเป็น -1.30%
5. PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 841.68 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.69%
ดัชนีมีการปรับตัวลดลงทำ New low หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 25 วัน แต่ในระหว่างวันช่วงบ่ายดัชนีสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือได้ โดยปิดได้ในระดับสูงของวัน ในขณะที่ MACD ดีดกลับขึ้นมายืนเหนือศูนย์ได้แล้ว ทำให้ในสัปดาห์หน้ามีโอกาสเกิดสัญญาณ Golden cross หากวันนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 1,565 จุดซะก่อน หรือเต็มที่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันแถวๆ 1,559 จุด ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับเป็นขาขึ้นรอบใหม่ได้อีกครั้ง โดยมีแนวต้านแถวๆ 1,571-1,573 จุด ผ่านหรือปิดได้เร็วเพิ่มลุ้นขึ้นต่อแถวๆ 1,577-1,580 จุดได้ต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
