สรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ประจำวันจันทร์ที่ 10 เม.ยง 2560 SET Index วันนี้ปรับตัวลง โดยดัชนีเปิดตลาดบริเวณ 1,581 จุด โดยการซื้อขายระหว่างวันตลาดปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,577 จุด แต่มีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาช่วงท้ายตลาด ส่งผลให้ดัชนีรีบาวน์ขึ้นอีกครั้งจนมาปิดตลาดที่ 1,581.19 จุด ลดลง 2.34 จุด (-0.15%) โดยการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง มีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 30,639 ล้านบาท นำโดยการปรับตัวลงของหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มขนส่ง (AOT), กลุ่มการแพทย์ (BDMS), กลุ่มอาหาร (MINT), กลุ่มธนาคาร (SCB, TMB) และกลุ่มค้าปลีก (BJC) โดยแนวโน้มตลาดยังเป็นการแกว่งตัวขึ้น โดยมีแนวต้านที่สำคัญบริเวณ 1,600 จุด
อย่างไรก็ตามแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัว ซึ่งส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารเช่น SCB, KBANK และหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น SCC
ส่วนปัจจัยต่างประเทศตลาดยังคงความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศต่อรัฐบาลซีเรีย ว่าจะขยายวงกว้างออกไปหรือไม่ ในขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอจะส่งผลให้ความน่าจะเป็นที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลดลง และประเด็นเกี่ยวกับการกีดกันทางการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท โดยล่าสุดค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่ามาอยู่ที่ 34.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 17 มี.ค. 2560 เป็นต้นมา นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องเกือบ 22,000 ล้านบาท ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้น ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบแกว่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 54 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวสหรัฐฯ ในช่วง 2Q/60 ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานเช่น PTT และ PTTEP ในขณะที่ค่าการกลั่นยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 6-7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น เช่น TOP และ SPRC ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดขายสุทธิ 128 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)
