บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ คาดไตรมาส 4 จุดถึงจุดต่ำสุดเศรษฐกิจ แต่ปีหน้ามีปัจจัยบวกหนุนฟื้น คงเป้าหุ้นไทยปีนี้ 1,700 จุด
คาดไตรมาส4จุดต่ำสุดเศรษฐกิจ – นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้คาดว่าจะอยู่ในจุดต่ำสุด ตามสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน แม้ว่าจะลดระดับความรุนแรงลง และท่าทีผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก ทำให้บรรยากาศความเสี่ยงปรับตัวดีขึ้น แต่ความเสี่ยงระดับมหภาคยังคงมีอยู่ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยในไตรมาส 4 ของปี 2562 ยังคงแกว่งตัว โดยบล.ไทยพาณิชย์ยังคงเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ที่ 1,700 จุด
ส่วนปี 2563 คาดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยที่ 1,800 จุด เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวได้เล็กน้อย และผลประกอบการภาคธุรกิจจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 คาดอัตรากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 5-10% ดีขึ้นจากปีนี้ที่เติบโต 2-3% โดยได้รับการสนับสนุนจากการส่งออกที่ฟื้นตัวดีขึ้น การใช้จ่ายภายในประเทศ และการลงทุนของภาครัฐ และภาคเอกชนที่เร่งตัวขึ้น
สำหรับการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2563 ในวันที่ 17-18 ต.ค.นี้ ต้องจับตาและคาดหวังจะผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งโดยรวมรัฐบาลมีความพร้อม เพื่อจะได้มีงบประมาณมาดำเนินนโยบายต่างๆ ในปี 2563 รวมทั้งเม็ดเงินที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐหลังจากเกิด inverted yield curve ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยลงทันที 0.25% ช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐไม่แย่ลง แต่คาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 5 ครั้งนับจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2563 ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐ จะยังคงขยายตัวจนถึงปี 2563
ด้านนายสิทธิชัย ดวงรัตนฉายา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในไตรมาส 4 ของปี 2562 ยังคงเน้นไปที่หุ้นขนาดใหญ่ สภาพคล่องสูง และปลอดภัย โดยชอบหุ้น domestic play ที่มีโมเมนตัมการเติบโตของกำไรสนับสนุน และหุ้นที่มี เรื่องราวเกี่ยวกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปีหน้า ซึ่งหุ้น top picks คือ นิคมอุตสาหกรรม (WHA), กลุ่มการแพทย์ (BCH), กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL, CPALL) และกลุ่มขนส่ง (BTS) ส่วนหุ้นที่แนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และยานยนต์ สาเหตุหลักมาจากเงินบาทแข็งค่าและความต้องการซื้อชะลอตัว
