สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 14 มกราคม 2563 ปิดที่ 1,586.90 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.74 จุด คิดเป็น +0.05% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,592.84 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,579.83 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 60,302.81 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,074.04 จุด ปรับตัวลดลง -0.21 จุด
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดาวโจนส์ปิดบวก 83.28 จุด ขานรับข่าวสหรัฐและจีนเตรียมลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในวันพุธนี้ โดยความคืบหน้าดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดผันผวน ขณะที่นักลงทุนรอดูการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างจีนและสหรัฐในวันที่ 15 ม.ค.นี้
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดลดลง 12.32 จุด
ภาวะตลาดหุ้นจีน เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบ 8.75 จุด ภายหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ แม้ว่า การลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างจีนและสหรัฐจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้
ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง ฮั่งเส็งปิดลบ 69.80 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาการลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอย่างใกล้ชิด
ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว นิกเกอิปิดบวก 174.60 จุด โดยดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นทะลุระดับ 24,000 ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. 2562 เนื่องจากนักลงทุนขานรับสหรัฐ-จีนเตรียมลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในวันพรุ่งนี้
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,069.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +0.78%
2. GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,597.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +1.04%
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,411.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท คิดเป็น +1.00%
4. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,389.57 ล้านบาท ลดลง -3.00 บาท คิดเป็น -2.21%
5. BAM มูลค่าการซื้อขาย 2,318.23 ล้านบาท ลดลง -0.40 บาท คิดเป็น -1.72%
ดัชนีมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาหลังจากปรับตัวขึ้นแรงในช่วงเช้า ส่วนหนึ่งอาจคาดการณ์ผลการลงนามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เลยมีการขายทำกำไรล่วงหน้า Sell on fact จึงทำให้ดัชนีขยับขึ้นไปปิด GAP แล้วอ่อนตัวลงมาในระหว่างวันจนกระทั่งปิดตลาดแต่ไม่ได้หลุดลงไปทำ New low ในขณะที่ MACD กำลังจะผ่านขึ้นมายืนเหนือศูนย์ หากวันนี้(15) ดัชนีประคองตัวยืนปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันแถวๆ 1,584-1,582 จุดได้ ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 1,598 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
