นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทย ภายหลังคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ โดยจะกระทบต่อการขายเงินลงทุนในตลาดหุ้นไทยของกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศไม่มาก เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศนำเงินเข้ามาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนชัดเจน (Fix income) แต่ยังรอจังหวะในการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์เดือนพ.ค. ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดที่ 1,561.66 จุด เพิ่มขึ้น 1.21% จากสิ้นปี 2559 แต่ปรับลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อน ส่วนหลักทรัพย์ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าดัชนีตลาดฯ ได้แก่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มธุรกิจการเงิน

ขณะเดียวกันในเดือนพ.ค. ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 5,454 ล้านบาท เป็นในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในภูมิภาค ส่งผลให้ตลอดปีผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิสะสมในตลาดหลักทรัพย์ไทย 13,651 ล้านบาท

โดยในเดือนพ.ค. ตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 42,994 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า และเป็นการเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผู้ลงทุน ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนพ.ค. อยู่ที่ 15.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้ว 1.9% ในแง่ของเงินบาท และเพิ่มขึ้น 4.5% ในแง่ของเงินดอลลาร์สหรัฐ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน