สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2560 ปิดที่ 1,580.91 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.90 จุด คิดเป็น +0.25% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,583.67 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,577.63 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 38,761.37 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 994.96 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.26 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.27% โดยดาวโจนส์อ่อนแรงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอีกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลง โดยหุ้นบริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก ท่ามกลางภาวการณ์ซื้อขายที่เป็นไปอย่างซบเซา

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ 0.28% โดยนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวานนี้ ขานรับข่าว MSCI นำหุ้น A share ของจีนเข้ารวมในการคำนวณดัชนี MSCI Emerging Markets Index (MSCI EM)

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ 0.14% หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือนเมื่อคืนนี้ ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,532.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +1.09%
2. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,515.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท คิดเป็น +0.85%
3. INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,499.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +1.74%
4. TASCO มูลค่าการซื้อขาย 1,462.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.80 บาท คิดเป็น +3.35%
5. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,417.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +0.27%

ดัชนีมีความพยายามดีดกลับขึ้นมาตามคาดหลังจากปรับตัวลดลงไปก่อนหน้านี้ โดยฟอร์มตัวเกิดเป็นสัญญาณโดจิ ซึ่งทำให้วันนี้ดัชนีดีดกลับขึ้นมาทดสอบเส้น BollingerTop และปิดได้ในระดับสูงของวัน หากวันที่ 23 มิ.ย. ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 1,580-1,579 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีโอกาสผ่านแนวต้านแรกที่ 1,584 จุด โดยมีแนวต้านถัดไปแถวๆ 1,589 จุดเป้าหมายเดิมจบรูปแบบ Invert Head and Shoulder ต่อไป

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน