นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จะมีการหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันถึงการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อรองรับการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) โดยในส่วนของเงินประเดิมก้อนแรกกำหนดให้ตลท. ต้องนำเงินใส่เป็นเงินประเดิมของกองทุน 8,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินส่วนเกินที่เหลือใช้ ยืนยันไม่ได้ทำให้ ตลท. แย่ลง

สำหรับในปีต่อๆ ไป ตลท. ต้องนำเงินส่งเข้ากองทุน CDMF ประมาณ 90% ของกำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และการลงทุนทั้งหมดแล้ว ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินจากกำไรทั้งหมดทันทีอย่างแน่นอน โดยเงินดังกล่าวนั้น เก็บไว้สำหรับหน่วยงานที่มีโครงการนำไปพัฒนาโครงการเกี่ยวกับตลาดทุนต่อ โดยจะมีคณะกรรมการ และผู้เชี่ยวชาญ ทั้งสิ้นประมาณ 6 คน ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วย

“ตอนนี้เงินทั้งหมดของ ตลท. อยู่ที่ตลท. ทั้งหมด การใช้เงินบางครั้งเป็นโครงการไม่เข้าท่า เรื่องที่ควรใช้ก็ใช้ และเรื่องไหนไม่จำเป็นก็ใช้ เยอะไปหมด ดังนั้นต้องมีคนเข้าไปดูแลบริหารจัดการ ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดูแลก็ไม่มีเงิน ซึ่งทุกอย่างยังอยู่ในหลักการของการพัฒนาตลาดทุนในอนาคต และเงินในส่วนนี้ โบรกเกอร์ก็ขอได้ มหาวิทยาลัย องค์กร ที่นำไปต่อยอดการพัฒนาตลาดทุน และสอดคล้องกับยุทธ์ศาสตร์การพัฒนาตลาดทุนไทยสามารถทำได้ด้วย ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ จะเป็นการเปลี่ยนบทบาทของ ก.ล.ต. ด้วย ไม่เช่นนั้นตลาดทุนบ้านเราจะไม่มีคนดูแล เพราะก.ล.ต. ก็ไม่มีตังค์ ตอนนี้กลายเป็นข่าวใหญ่โต จึงอยากให้มาคุยกัน ไม่ใช่ถกกันหน้าหนังสือพิมพ์ เพราะมันจะตีกัน”นายอภิศักดิ์ กล่าว

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของร่างกฎหมาย ก.ล.ต. ฉบับใหม่ จะเป็นการเปลี่ยนบทบาทของ ก.ล.ต. จากผู้กำกับควบคุม ให้มีความรับผิดชอบในการพัฒนาตลาดทุนมากขึ้น ซึ่งต้องทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง เหมือนกับที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลตลาดเงิน ไม่เช่นนั้นตลาดทุนจะไม่มีใครดูแล โดยร่างกฎหมาย ก.ล.ต. ใหม่นี้ คาดว่าจะมีผลใช้ภายในปีนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน