น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและ เทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากการหารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการพร้อมเพย์และบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด เพื่อติดตามความคืบหน้าของการทดสอบระบบมีความเห็นร่วมกันว่า ควรทดสอบระบบให้รอบด้านและมีความพร้อมทุกธนาคารก่อนเปิดใช้บริการ เนื่องจากความปลอดภัย ความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือของการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ดังนั้นจึงควรทดสอบระบบทุกอย่างให้ละเอียด รอบด้าน และที่สำคัญต้องให้ทุกธนาคารที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมในการเปิดให้บริการ

“ในการประชุมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาระบบพร้อมเพย์ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ทุกฝ่ายจึงเห็นพ้องกันว่า การที่สมาคมธนาคารไทยและธนาคารที่เข้าร่วมโครงการเสนอให้เลื่อนการเปิดให้บริการพร้อมเพย์ สำหรับธุรกรรมระหว่างบุคคลไปเป็นไตรมาสแรกของปี 2560 เป็นแนวทางที่เหมาะสม จากเดิมที่จะเปิดให้บริการในเดือนต.ค.เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอสำหรับการทดสอบระบบให้มีความเสถียร” น.ส.สิริธิดากล่าว

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ระบบพร้อมเพย์ที่จะใช้ต้องมีความปลอดภัยสูงสุดเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของผู้ใช้ หากระบบยังไม่มีความเสถียรจะล่าช้าไปกว่ากำหนดเดิมเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร ส่วนนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่าเพื่อความพร้อมเลื่อนออกไปก็ไม่เป็นปัญหา หากไม่พร้อมแล้วไปใช้จะทำให้เสียความเชื่อมั่น และเรื่องของพร้อมเพย์ เป็นเรื่องของความสมัครใจไม่ได้บังคับ ซึ่งธปท.เป็นหัวเรือหลักในการดำเนินการและรับผิดชอบเรื่องนี้

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่าทุกธนาคารได้พัฒนาบริการพร้อมเพย์ในส่วนของแต่ละธนาคารแล้วเสร็จ และเริ่มเข้าสู่การทดสอบ โดยเป็นการทดสอบการเชื่อมโยงระบบระหว่างธนาคารต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ กับระบบกลางและการโอนเงินระหว่างธนาคารในรูปแบบต่างๆ พบว่าการทดสอบระบบเพื่อให้ครบทุกธนาคารและทุกช่องทางที่ให้บริการ รวมทั้งให้ครอบคลุมกรณีตัวอย่างต่างๆ ใช้เวลามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเป็นระบบใหญ่ เชื่อมโยงหลายธนาคาร และมีช่องทางให้บริการที่หลากหลาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน