นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ คาดว่าการปล่อยสินเชื่อโครงการ 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอี จะมียอดคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายทั้งโครงการต้องการปล่อยสินเชื่อให้ได้ 7.2 หมื่นล้านบาท ในพื้นที่ 7,200 ตำบล โดยมีการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2560 ไปสิ้นสุดที่ 31 มี.ค. 2561

ทั้งนี้ ธนาคารได้ปรับปรุงกระบวนการปล่อยสินเชื่อให้ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้แต่กระบวนการผลิต ที่ไปช่วยปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกตั้งแต่ต้นน้ำและกลางน้ำ ไปจนถึงขั้นตอนการผลิต และจำหน่ายสินค้า ผ่านกลไก 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสหกรณ์ นิติบุคคล วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ เนื่องจากทุกห่วงโซ่การผลิตมีความสำคัญ หากเริ่มต้นจากการปลูกพืชที่มีคุณภาพเอามาแปรรูปก็จะได้สินค้าเกษตรแปรรูปที่มคุณภาพและได้มาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด หรือบางรายเมื่อนำสินค้าออกจำหน่ายตามช่องทางที่ธนาคารได้หาพันธมิตรไว้ให้ ปรากฎว่าสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด ต้องเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้นอีก เช่น การสนับสนุนเกษตรกรที่ปลูกข้าวในเขตนาปรัง ให้หันมาปลูกกล้วยน้ำหว้า

นอกจากนี้ยังมี โครงการค้ำประกันภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีทวีทุน ระยะที่ 6 (PGS 6) ของบรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. มีกรอบวงเงินค้ำประกันไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วยสินเชื่อสนับสนุนด้านการเงินตลอดห่วงโซ่มูลค่าเพิ่ม วงเงินค้ำประกันไม่เกิน 4,000 ล้านบาท และโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอีเกษตร เพื่อสร้างความยั่งยืนของภาคเกษตรกรไทย วงเงินค้ำประกันไม่เกิน 1,000 ล้านบาท

“ในช่วงปีที่ผ่านมายังเป็นช่วงที่ธนาคารกำลังวางหลักเกณฑ์และเฟ้นหาเอสเอ็มอีหัวขบวนที่ผลิตสินค้าพรีเมี่ยมได้ มาปีนี้ก็ปรับกลยุทธ์มาปล่อยกู้ช่วยเกษตรกรที่อยู่ต้นน้ำ กลางน้ำให้ช่วยกันผลิตสินค้าที่ได้คุณภาพ และหาเอสเอ็มอีหัวขบวนรายใหม่ๆด้วย คาดว่าจะปล่อยกู้ได้ตามเป้า 7.2 หมื่นล้านบาท หรืออาจจะทำได้มากถึงถึงแสนล้านบาทเลยก็เป็นได้”นายอภิรมย์กล่าว

อย่างไรก็ดี ในแผนยุทธศาสตร์ของธ.ก.ส. ได้ปรับพอร์ตสินเชื่อใหม่ โดยนจะเน้นเรื่องการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีภาคเกษตรมากขึ้นอีกปีละ 1 แสนล้านบาท เป็นแผน 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปีบัญชี 2560 รวม 3 ปี เป็นเงิน 3 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันยอดปล่อยสินเชื่อคงค้างที่ระดับกว่า 1 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อรายย่อย คิดเป็น 99.34 % ที่เหลือ 0.66 % เป็นสินเชื่อรายใหญ่และเอสเอ็มอี มียอดปล่อยสินเชื่อรวมกว่า 2 แสนล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน