สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2560 ปิดที่ 1,706.52 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.85 จุด คิดเป็น +0.64% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,706.55 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,695.84 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 49,056.61 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,091.06 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +6.49 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 0.10% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากมีรายงานว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ในวันแบล็กฟรายเดย์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่วุฒิสภาจะลงมติต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในวันพฤหัสบดีนี้
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษได้เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤตที่ออกมาเป็นบวก
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น 0.34% หลังจากที่ร่วงลงในช่วงการซื้อขายก่อนหน้านี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการคุมเข้มทางการเงินและอสังหาริมทรัพย์ของทางการจีน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดขยับลง 0.04% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นหลังจากที่มีรายงานว่า เกาหลีเหนืออาจจะเตรียมยิงขีปนาวุธรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. AOT มูลค่าการซื้อขาย 8,287.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +3.00 บาท คิดเป็น +5.13%
2. IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,599.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.25 บาท คิดเป็น +2.59%
3. IRPC มูลค่าการซื้อขาย 1,443.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.20 บาท คิดเป็น +3.33%
4. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,339.38 ล้านบาท ลดลง -1.25 บาท คิดเป็น -1.66%
5. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,258.81 ล้านบาท ลดลง -2.00 บาท คิดเป็น -0.48%
ดัชนีมีการปรับตัวขึ้นหลังจากวันก่อนหน้ามีการทำสัญญาณคล้ายโดจิ ซึ่งในระหว่างวันมีความพยายามดีดกลับ ส่งผลให้วันนี้ (28) ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อได้และขยับขึ้นไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 5, 10 และ 25 วัน แต่ยังปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันไม่ได้ ในขณะที่ MACD กำลังจะดีดกลับขึ้นอีกครั้งหลังจากหลุดลงไปต่ำกว่าศูนย์เล็กน้อย
หากวันที่ 29 พ.ย. ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันแถวๆ 1,701-1,700 จุดซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้โดยมีแนวต้านสั้นๆ ที่ 1,709 จุด ผ่านหรือปิดเหนือระดับดังกล่าวได้เร็วค่อยเพิ่มลุ้นขึ้นต่อแถวๆ 1,721-1,722 จุดต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
