สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันอังคารที่ 12 ธันวาคม 2560 ปิดที่ 1,702.17 จุด ปรับตัวลดลง -4.35 จุด คิดเป็น -0.25% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,710.80 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,699.98 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 52,256.34 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,101.36 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.68 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 0.23% โดยดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดทำนิวไฮ หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความตื่นตระหนกเกี่ยวกับเหตุก่อการ้ายที่เกิดขึ้นในย่านไทม์สแควร์เมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวก โดยตลาดดีดขึ้นหลังจากปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ อันเนื่องจากแรงขายในกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของเฟด และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลง 1.25% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ 0.32% เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมของเฟด จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ และจะแถลงมติการประชุมในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,321.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +6.00 บาท คิดเป็น +1.42%
2. BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 2,824.30 ล้านบาท ลดลง -1.80 บาท คิดเป็น -9.00%
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,428.96 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -0.40%
4. HUMAN มูลค่าการซื้อขาย 2,253.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.55 บาท คิดเป็น +6.83%
5. GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,701.73 ล้านบาท ลดลง -2.00 บาท คิดเป็น -3.65%
ดัชนีมีการปรับตัวลดลงตลอดทั้งวันหลังจากเกิดสัญญาณโดจิไปในวันก่อนหน้า (8 ธ.ค.) เป็นสัญญาณบอกว่าดัชนีจะมีการพลิกกลับ ซึ่งทำให้วันนี้ดัชนีซึมลงตลอดทั้งวันแต่ยังไม่หลุดปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 , 10 และ 25 วันแถวๆ 1,700 จุด
ซึ่งวันที่ 13 ธ.ค. จะใช้เป็นแนวรับบริเวณ 1,701-1,700 จุด หากดัชนีประคองตัวยืนปิดเหนือระดับนี้ไม่ได้ดัชนีอาจซึมลงต่อแถวๆ 1,696 จุด หรืออาจไหลลงไปแถวๆ 1,687-1,686 จุดได้ต่อไป แนวต้าน 1,703-1,704 จุด
