สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2559 ปิดที่ 1,492.12 จุด ปรับตัวลดลง -14.35 จุด คิดเป็น -0.95% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,507.20 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,492.11 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 46,358.16 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 938.42 จุด ปรับตัวลดลง -10.74 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 0.30% หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ผันผวน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันร่วง ก่อนหน้าที่การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน และประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกโอเปกจะเปิดฉากขึ้น ขณะที่รัสเซียได้ออกมาเผยจุดยืนไม่เห็นด้วยกันการลดปริมาณการผลิตน้ำมัน

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดอ่อนตัวลง 0.50% หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการคุมเข้มภาคธนาคาร ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเรื่องสภาพคล่องตึงตัว ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.15% ภายหลังจากที่ฤดูแห่งการเปิดเผยข้อมูลผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้นด้วยดี ในขณะที่ตลาดยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการคาดการณ์เรื่องธนาคารกลางญี่ปุ่นได้เข้าซื้อกองทุน ETF

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. SQ มูลค่าการซื้อขาย 2,972.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.80 บาท คิดเป็น +25.00%
2. BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,516.30 ล้านบาท ลดลง -0.10 บาท คิดเป็น -0.53%
3. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,030.77 ล้านบาท ลดลง -3.00 บาท คิดเป็น -1.71%
4. ESSO มูลค่าการซื้อขาย 1,543.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +12.12%
5. BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,161.88 ล้านบาท ลดลง -0.25 บาท คิดเป็น -3.23%

ดัชนีมีการปรับตัวลดลงถือเป็นการปรับฐานระยะสั้น หลังจากวันก่อนหน้าได้เกิดสัญญาณโดจิส่งผลให้เกิดการพลิกกลับของทิศทางก่อนหน้า ส่งผลให้ดัชนีหลุดลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 75 วันแถวๆ 1,500-1,495 จุดแล้ว และปิดที่จุดต่ำสุดของวันด้วย หากวันนี้ดัชนีดีดกลับขึ้นมาทดสอบสองเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวอีกครั้งแต่ปิดไม่ได้อีก มีโอกาสที่ดัชนีจะหลุดลงมาทดสอบแนวรับถัดไปแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 25 วันแถวๆ 1,483-1,481 จุดได้อีกครั้ง

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน