นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนม.ค. 2561 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,826.86 จุด เพิ่มขึ้น 4.2% จากสิ้นปี 2560 แลมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนม.ค. 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 18.7 ล้านล้านบาท มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 78,842 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมี 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า SET Index ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มธุรกิจการเงิน ตามลำดับ

ทั้งนี้ SET Index ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายในปี 2518 โดยปิดที่ระดับ 1,838.96 จุด เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในเอเชีย ซึ่งปัจจัยภายนอกประเทศเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ เช่น ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ ในขณะที่เศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตจากการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจจีน การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ รวมถึงการดำเนินนโยบายการเมืองระหว่างประเทศเป็นประเด็นที่ผู้ลงทุนควรให้ความสำคัญ

อย่างไรก็ดี เมื่อแยกประเภทผู้ลงทุนในเดือนม.ค. 2561 พบว่าผู้ลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 5,468 ล้านบาท สวนทางกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค และสวนทางกับตลาดตราสารหนี้ของไทยที่ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิสำหรับอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนม.ค. 2561 อยู่ที่ระดับ 2.68% โดยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.35%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน