สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 ปิดที่ 1801.16 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.14 จุด คิดเป็น +0.01% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,814.83 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,797.79 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 84,181.85 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,173.75 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +4.65 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.01% โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นวอลมาร์ทที่ดิ่งลงกว่า 10% หลังจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายนี้ได้เปิดเผยกำไรไตรมาส 4/2560 ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลง ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในช่วงเปิดตลาด ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์ที่ปิดแดนลบ แม้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่จะสดใสก็ตาม
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกเล็กน้อย 0.21% ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 17,092.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +32.00 บาท คิดเป็น +6.53%
2. IVL มูลค่าการซื้อขาย 3,106.86 ล้านบาท ลดลง -2.25 บาท คิดเป็น -4.13%
3. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,178.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท คิดเป็น +0.91%
4. AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,122.71 ล้านบาท ลดลง -0.50 บาท คิดเป็น -0.73%
5. IRPC มูลค่าการซื้อขาย 2,007.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.10 บาท คิดเป็น +1.31%
ดัชนีมีความพยายามปรับตัวขึ้นต่อในลักษณะกระโดดแต่ไม่ได้เปิด GAP ก่อนที่เริ่มอ่อนตัวลงต่อเนื่อง จนในที่สุดลงมาในแดนลบส่วนหนึ่งเกิดจากไม่ผ่านขึ้นทำ New high และประคองตัวยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันไม่ได้ และเกิดการทำ New low เล็กน้อย
หากวันนี้ดัชนีประคองตัวยืนปิดแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 1,799 จุดไม่ได้ ดัชนีน่าจะซึมลงทดสอบจุดต่ำสุดเดิมในรอบสัปดาห์ที่ 1,790 จุด และต้องลุ้นให้ MACD ยืนเหนือระดับศูนย์ให้ได้ ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับได้ต่อไป แนวต้าน 1,808-1,811 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
