“โค้ชตาม”ชาญ ตัณฑปุตตะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีม เพชรพฤกษ์ เอฟซี เผยถึงความพร้อมในการสู้ศึกฟุตบอลลีก ดิวิชั่น 3 ว่า สโมสรเพชรพฤกษ์ก่อตั้งเมื่อปี 2554 โดย “บิ๊กอั้ม”อิสรา คำภากุมภ์ ประธานสโมสรฯ ซึ่งเป็นนักธุรกิจ ปาย กาแฟ ที่ผ่านมาส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันในฟุตบอลถ้วยพระราชทานฯ ง. กระทั่ง ปีนี้ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลไทยฯ ปรับการแข่งขันฟุตบอลถ้วยเป็นระบบฟุตบอลอาชีพ ลีกดิวิชั่น 3 โดย “บิ๊กอั้ม” ก็ทีมส่งเข้าร่วมแข่งขัน และมีการปรับเปลี่ยนระบบการฝึกซ้อมให้เป็นแบบมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
1
“เพชรพฤกษ์เตรียมทีมฝึกสอนมานานกว่าครึ่งปี โดยเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่สนามสมาคมฟุตบอลสุขโกกี พระราม 2 และที่ผ่านมา เน้นเรื่องพละกำลังความฟิตของร่างกาย รวมถึงความสัมพันธ์ในการเล่นทีมเวิร์ก ส่วนช่วงสองสัปดาห์ก่อนลงเตะนั้น เราเก็บตัวสนามต่อเนื่อง โดยช่วงหลังนี้จะเน้นเรื่องของเทคนิคและแท็กติกในการสร้างสรรค์เกมรุกและเกมรับ ด้วยระยเวลาในการเก็บตัวที่พอสมควร เชื่อว่าผลงานทีมในปีนี้น่าจะดี ดังนั้นเราจึงตั้งเป้าเลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 2 ให้ได้”
2
“โค้ชตาม” เผยอีกว่า สำหรับซีซั่น 2016 นี้ “บิ๊กอั้ม”ให้งบประมาณในการทำทีมทั้งสิ้น 1 ล้านบาท โดยสโมสรมีนักเตะทั้งสิ้น 30 คน และส่งเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 20 คน โดยใช้นักเตะไทยทั้งหมด ตามนโยบายของ “บิ๊กอ๊อด” ซึ่งต้องการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย โดยเน้นให้นักเตะไทยได้มีเวทีในการแสดงฝีเท้า ส่วนนักเตะเพชรฯนั้นอายุเฉลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 19-30 ปี ซึ่งรชนักเตะอายุ 30 ปีนั้น เราจะใช้เรื่องประสบการณ์ความเก๋าที่ผ่านสนามดิวิชั่น 2 มาคุมจังหวะเกมของทีม ส่วนระดับเยาวชนชนนั้นเน้นเรื่องของความฟิต โดยแข้งระดับเยาวชนของเรามีดีกรีอดีตเยาวชนทีมชาติรุ่น 14 ปี และอีก 2 คน เป็นเด็กฝึกมาจากสโมสรลีกอาชีพในอินเดีย และ เด็กฝึกจากสโมสร “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลนา เมื่อมองภาพรวมเชื่อมั่นว่าทีมจะสามารถไปได้ไกลและไปได้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
3
“ทั้งนี้ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 3 เพชรพฤกษ์ ลงเตะในโซนภาคกลาง ซึ่งมีทั้งสิ้น 56 ทีม มีทั้งสิ้น 18 สาย เราอยู่สายโอ ร่วมกับ มรภ.นครปฐม และ ฟอเรสต์เตอร์ ซึ่งเป็นทีมของคณะวนศาสตร์ เกษตร โดยจะเริ่มเตะประมาณกลางเดือนต.ค. คัดเพียง 1 ทีมแต่ละสาย เข้าสู่รอบต่อไป โดยในโซนภาคกลางจะคัดเพียง 1 ทีม เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 2 เมื่อพิจารณาตามโปรแกรมแล้ว หากต้องการเลื่อนชั้นสู้ดิวิชั่น 2 เราต้องเก็บชัยชนะทั้งสิ้น 5 เกมรวด ถือว่าไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไป เพราะทีมผ่านมานักเตะเราทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ อีกทั้งเมื่อพบข้อบกพร่อง หรือปัญหาเรื่องของการฝึกซ้อมของทีม ก็ขอคำปรึกษาจาก “โค้ชธง”ธงชัย สุขโกกี เฮดโค้ชมากประสบการณ์ หลักจากนั้นก็จะนำเอาคำแนะนำ “โค้ชธง” ในฐานะพี่ชาย มาปรับใช้ให้เข้ากับระบบทีมต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน