ปักหมุดสเปน-โปรตุเกสซึมซับเมืองประวัติศาสตร์
ปักหมุดสเปน-โปรตุเกสซึมซับเมืองประวัติศาสตร์ – ได้รับเชิญจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้ไปศึกษาและดูโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ประเทศสเปนและโปรตุเกส เมื่อเร็วๆ นี้
นอกจากดูงานแล้วยังมีโอกาสได้ท่องเที่ยวทั้งสองประเทศนี้ด้วย จึงเก็บความประทับใจมาแชร์กับทุกคน
เริ่มทริปที่สเปน จุดหมายอยู่ที่ “เซบีญ่า” หนึ่งในจังหวัดสำคัญแห่งแคว้นอันตาลูเซีย เมืองเก่าแก่ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ และหลายๆ สิ่งที่เป็นจุดเด่นของสเปนอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น เหล้าเชอร์รี่ชั้นดี วัวกระทิง และระบำฟลามิงโก ขณะที่สถาปัตยกรรมเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่สวยงามอลังการตามประวัติศาสตร์ของเมือง
เมืองเเห่งนี้มีเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวข้องกับนักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส จากการค้นพบโลกใหม่ ผู้ซึ่งทำให้เซบีญ่ากลายเป็นศูนย์กลางการส่งสินค้าไปขายในโลกใหม่ นำสู่ความมั่งคั่งให้กับเมืองนี้ ทำให้โคลัมบัส เป็นบุคคลสำคัญของเซบีญ่า หีบศพของเขาจึงได้รับเกียรติยศอย่างสูงให้ตั้งไว้ในมหาวิหาร Catedral de Sevilla สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่เราได้มาปักหมุดท่องเที่ยวกัน
ผู้นำเที่ยวของเราจากบริษัท วี ทราเวลเลอร์ เล่าว่า มหาวิหารแห่งนี้เคยเป็นมัสยิดมาก่อน ต่อมาถูกชาวคริสต์สร้างโบสถ์ครอบอีกที เป็นโบสถ์แบบโกธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และใหญ่เป็นอันดับสามในบรรดามหาวิหารของคริสต์ศาสนจักร
นอกจากนี้ ยังได้จดทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ซึ่งสามารถขึ้นไปชมบนหอระฆัง Giralda ได้ โดยขึ้นไปตามทางลาดชันที่หมุนวนขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงบนสุดชั้น 35 เป็นที่แขวนระฆัง และสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเซบีญ่าได้ทั่วทั้งเมือง
อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของเซบีญ่า คือ Plaza de Espana ที่เราไปเช็กอินกันต่อ สถานที่นี้เป็นสวนสาธารณะโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองนี้ สร้างแบบจัตุรัสบนลานกว้างขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยระเบียงที่มีรั้วรอบขอบชิดของอาคารครึ่งวงกลมที่โค้งไปตามรูปร่างของคลองที่ไหลผ่านสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทั้งยังมีตราประจำจังหวัดในสเปนไล่เรียงตามอักษรให้เลือกถ่ายรูปได้ตามชอบใจ
ยังมีอนุสาวรีย์น้ำพุเป็นจุดศูนย์กลางที่สง่างามของจัตุรัส มีคลองน้ำให้นักท่องเที่ยวเช่าเรือพายให้บรรยากาศโรแมนติก ไม่เบา เพราะที่แห่งนี้เป็นที่พบปะและทำกิจกรรมต่างๆ ของชาวเมืองไว้สำหรับพักผ่อน
จากนั้นเรามีภารกิจไปต่อกันอีกสองเมือง ที่ กุลลิสบอน และ เมืองปอร์โต ประเทศโปรตุเกส เดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลา 2 ชั่วโมงจากเซบีญ่าถึงลิสบอน เมืองหลวง และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของโปรตุเกส ซึ่งตั้งอยู่ทิศตะวันตกของประเทศ ติดริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของคาบสมุทรไอบีเรีย จึงโดดเด่นเรื่องความงดงามของภูมิประเทศที่มีชายหาด พื้นที่ราบและภูเขารายล้อม
ไปถึงช่วงเช้าๆ เราเริ่มด้วยการเติมพลังกับทาร์ตไข่ กินคู่กาแฟ หรือ โกโก้ร้อนๆ ที่ร้านเก่าแก่ในตำนานอายุเป็น 100 ปี ชื่อ Pastis de Belem ซึ่งไกด์บอกว่าเป็นร้านที่มีคนต่อคิวยาวมหาศาล เพราะที่นี่ถือเป็นต้นฉบับทาร์ตไข่ของโลก และต้องยอมรับว่าอร่อยจริงๆ เสิร์ฟร้อนๆ แป้งกรอบ ไส้หวานมัน โรยผงซินนามอนและน้ำตาลไอซิ่งเพิ่มรสชาติได้ลงตัว
เดินไปต่อที่ Jernimos Monastery อารามเจโรนิโมส์ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความภาคภูมิใจในความรุ่งเรือง มั่งคั่ง และเพื่อเป็นการสรรเสริญคณะสำรวจ วาสโก ดา กามา (Vasco de Gama) ชาวโปรตุเกสที่ค้นพบอินเดียได้สำเร็จ
อารามแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมสร้างขึ้นในสไตล์โกธิกช่วงปลายตามแบบฉบับโปรตุเกส และยังเพิ่มรูปแบบสมัยเรเนสซองส์เข้าไปด้วย ชื่นชมกับเสาหินขนาดใหญ่ และแต่ละต้นสลักด้วยภาพงานศิลปะจากท้องทะเลและการเดินเรือ เมื่อเราก้าวเข้ามาในอารามจะเห็นน้ำพุอยู่ตรงกลาง ดูสวยงามอลังการ เป็นอีกสิ่งก่อสร้างที่น่าทึ่งที่สุดเลยทีเดียว
ไปเก็บภาพสวยๆ กันต่อที่ Torre de Belem หอคอยแห่งเบเลม หนึ่งในแลนด์มาร์กของเมือง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1515 – 1521 เพื่อป้องกันข้าศึกศัตรูที่เข้ามารุกราน รูปแบบของหอคอยเป็นศิลปะแบบเรเนสซองส์
เดิมทีหอคอยแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ กลางแม่น้ำ Taqus แต่ปัจจุบันพื้นที่เกาะกลายเป็นแผ่นดินที่ชิดติดริมชายฝั่ง
เสร็จแล้วได้เวลาเช็กอินเข้าพักโรงแรมที่อยู่ในย่านช็อปปิ้งถนน Avenida da Liberdade เรียงรายไปด้วยร้านแบรนด์ เนมดัง ให้นักช็อปได้เลือกช็อปปิ้งได้ อย่างอิสระ หรือจะเดินชมเมืองซึมซับบรรยากาศในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และน่าค้นหาที่ผสมผสานความทันสมัยกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่แบบดั้งเดิมได้ลงตัว
วันต่อมาเราเดินทางไปเมืองซิงตรา ที่ตั้งของแหลม Cobo da Roca สถานที่ไฮไลต์ไม่ควรพลาดต้องมาเช็กอิน เพราะนอกจากเป็นจุดปลายสุดตะวันตกของยุโรปแล้ว ยังเป็นจุดที่ทำให้โปรตุเกสเป็นนักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ ด้วยอนุสาวรีย์โดดเด่นตั้งอยู่บนหน้าผาหิน
แหลมนี้เป็นหน้าผาหินสูงกว่า 100 ฟุต มองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของชายฝั่งทะเลแอตแลนติกด้านล่าง และมีทางเดินเล็กๆ คดเคี้ยวลงมาชายฝั่งได้ อากาศดีมาก ลมแรง แดดไม่จัด สูดกลิ่นธรรมชาติได้เต็มปอด
ไปต่อที่เมืองบาตาลยา เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีโบสถ์สำคัญแห่งหนึ่งของโปรตุเกส คือ Batalha Monastery สร้างเพื่อถวายพระแม่มารี โดยสร้างอยู่ใกล้สนามรบที่พระเจ้าฌูเอาว์ที่ 1 ที่นำทหารรบกับพระเจ้าจอห์นที่ 1 กษัตริย์แคว้นคาสตีลมาอ้างสิทธิ์ครอบครองราชบัลลังก์และแผ่นดินโปรตุเกสจนมีชัยชนะ
จากนั้นออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเมืองปอร์โต ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ และเป็นเมืองท่าศูนย์กลางการค้าที่เก่าแก่ของโลกระดับ 200 – 300 ปี ด้วยความที่เป็นเมืองเก่าและมีมาอย่างยาวนานจึงสัมผัสได้ถึงบ้านเรือนที่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้อย่างงดงาม เป็นสไตล์เฉพาะตัวของเมืองที่สวยงามน่าหลงใหล
สถานที่ท่องเที่ยวที่เราเลือก คือ ร้านหนังสือ Livraria Lello ที่เจ. เค. โรลลิ่ง มาใช้เป็นสถานที่สำหรับนั่งเขียนต้นฉบับยุคแรกๆของนิยายดังระดับโลก แฮร์รี่ พอตเตอร์ ตอนที่ยังเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในโปรตุเกส และที่แห่งนี้คือแรงบันดาลใจของโรงเรียนฮอกวอตส์ในหนังสือ
ภายในร้านตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างนีโอโกธิก และอาร์ตเดกโค โดดเด่นด้วยสีแดงสดของพื้นบันไดไม้วนสองชั้น ถูกใจสาวกแฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้มาสัมผัสและเก็บภาพจำนวนมาก ซึ่งต่อปีมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่เฉลี่ยถึง 1 ล้านคนทีเดียว
เป็นอีกสองประเทศในยุโรปที่ไม่ควรพลาดไปปักหมุดเก็บเกี่ยวความประทับใจ
ปัทมา ทองสิน