หนาวสุดใจที่ซัปโปโร ตะลุยเทศกาลหิมะ-น้ำแข็ง
หนาวสุดใจที่ซัปโปโร ตะลุยเทศกาลหิมะ-น้ำแข็ง – เมื่อรู้ว่าต้องไปซัปโปโร เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ดูวัน เวลา เป็นช่วงเดือนก.พ. ช่วงเดียวกับเทศกาลหิมะ ที่ขึ้นชื่อหลายงาน จึงเตรียมตัวพร้อมรับความเย็นยะเยือก ที่ดูพยากรณ์แล้วอุณหภูมิติดลบ 5, 6 หรือ 7 องศา เกือบทุกวัน
ทริปนี้จึงเตรียมไปหนาว ด้วยอุปกรณ์ให้ความอบอุ่นกับร่างกาย ถุงเท้า หมวก ถุงมือ เสื้อกันหนาว ฯลฯ เรียกว่าพร้อมมากๆ
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินชิโตเสะ มองออกนอกหน้าต่างขาวโพลนด้วยหิมะปกคลุมสุดลูกหูลูกตา ความบ้านนอก ความไม่เคยเห็นหิมะขาว ฟู จึงรู้สึกตื่นเต้น อยากสัมผัส อยากลงไปกระโดด นอนกลิ้งบนหิมะขาวปุกปุย
ตลอดเวลาชั่วโมงเศษที่นั่งรถจากสนามบินชิโตเสะ ถึงซัปโปโร สายตาจ้องมองออกนอกรถ ไม่อยากหลับ อยากมองความงามแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงซัปโปโร
เป้าหมายแรกที่ไปคือสวนสาธารณะโอโดริ กลางเมืองซัปโปโร ที่มีการจัดเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ที่มีประติมากรรมจากหิมะทั้งขนาดใหญ่ยักษ์และขนาดเล็กนับร้อยชิ้นที่สร้างเป็นรูปร่างและเรื่องราวต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมถ่ายรูปกันอย่างจุใจ
เทศกาลหิมะที่ซัปโปโร จัดทุกปี จะมีการแสดงผลงาน แกะสลักหิมะที่ถ่ายทอดเรื่องราวและแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ และบุคคลสำคัญต่างๆ มาโชว์ในงาน
ปีนี้เทศกาลหิมะซัปโปโรได้สร้างผลงานที่ถ่ายทอดความชื่นชอบนักเตะไทย“เมสซี่เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์” ที่ไปค้าแข้งให้สโมสรฟุตบอลฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร มาไว้ในงานด้วย
รูปแกะสลักจากหิมะ ที่หลากหลายจัดตั้งเป็นเทศกาลหิมะ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาเยือนเมืองซัปโปโรได้ไม่น้อย
ครั้งนี้ถือเป็นความโชคดี ที่ขณะเดินเที่ยวหิมะตกตลอดเวลา ตกหนักหนาตา ทำให้การเดินฝ่าปุยหิมะที่ตกมาตลอดเวลามันชื่นฉ่ำใจ ได้สัมผัสหิมะขาวๆ นุ่มๆ ตลอดทางเดิน แต่โชคร้าย ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวบางตา
ชื่นชมรูปแกะสลักหิมะ แบบฉ่ำปอด จนนิ้วเท้า นิ้วมือ เย็นเข้าไปถึงกระดูก จนต้องร้องขอราเม็งร้อนๆ สักชาม ก่อนกลับไปหลับที่โรงแรมเพื่อเอาแรง
ตื่นเช้าพร้อมโปรแกรมวันใหม่ ด้วยการนัดหมายออกเดินทาง 10.00 น. เป้าหมายเมืองโอตารุ เป็นเมืองที่อยู่ห่างจากซัปโปโรประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งรถไม่ถึงชั่วโมง
แต่งานนี้ต้องแอบเสียดาย เพราะเที่ยวเมืองโอตารุ ต้องเที่ยวในเทศกาลหิมะเมืองโอตารุ (Otaru Snow Story) ปีนี้จัดขึ้นวันที่ 9-16 ก.พ.2563 ตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. ในงานจะเนรมิตคลองโอตารุให้สุดโรแมนติกด้วยการประดับเทียนในโคมหิมะตามจุดต่างๆ เรียงรายไปตามริมคลองให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงาม ท่ามกลางความหนาวเย็นของหิมะในเวลากลางคืน
การมาเยือนโอตารุครั้งนี้ มาก่อนเทศกาลหิมะ แต่ก็ได้เห็นการเตรียมงานของชาวเมือง ทั้งคนแก่และเด็กต่างออกมาปั้นโคมหิมะ เพื่อใช้ในเทศกาลกันอย่างคึกคัก
แม้ไม่ใช่กลางคืน ไม่ใช่วันงาน คลองโอตารุยังคงความสวยงามสมกับเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรือง ถือเป็นแหล่งกระจายสินค้าหลักของฮอกไกโด คงหลงเหลือสิ่งก่อสร้างเก่าๆ ที่สร้างขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 คงความเป็นเมืองน่ารัก มีความพิเศษคือสิ่งก่อสร้างจำนวนมากที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม
เสร็จสรรพจากการถ่ายรูป ชื่นชมความสวยงามของคลองโอตารุ จึงเดินเลียบคลองซึ่ง 2 ข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านเบียร์ คาเฟ่ ร้านอาหารทะเล ร้านขนมหวาน ก็มีมากมายให้เลือกแวะชม ชิมระหว่างเดินเที่ยว
เดินลึกเข้าไปจะมีพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี (Otaru Music Box Museum) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก อาคารที่สวยงามแห่งนี้มีอายุเก่าแก่นับร้อยปี
ว่ากันว่ากล่องดนตรีในพิพิธภัณฑ์มีมากกว่า 25,000 ชิ้น เมื่อเห็นกับตา ภายในพิพิธภัณฑ์อัดแน่นเต็มพื้นที่ด้วยกล่องดนตรีจนละลานตา ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเป็นของที่ระลึก แถมมีของเก่ามากมายให้ได้ชื่นชม
หากเดินทางมาพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี แล้วไม่เห็นให้เดินตามเสียงนาฬิกาไอน้ำ ที่ตั้งอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์ ซึ่งนาฬิกาจะดังทุก 15 นาที และมีการพ่นไอน้ำทุกชั่วโมง
หลงความงามของกล่องดนตรี จนลืมเวลา ทำให้โปรแกรมถัดไป คือ โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ(Shiroi Koibito Park) ที่อยู่ระหว่างทางขากลับจากโอโตรุมาซัปโปโร เป็นได้แค่ชะโงกทัวร์ 20 นาทีที่ได้ชมสวนชิโรอิโคอิบิโตะ แค่หน้าโรงงานเท่านั้น เพราะข้างในโรงงานปิด 19.00 น.
แต่สวนชิโรอิโคอิบิโตะทำเอาต้องลดอายุลงไปหลาย 10 ปี เพราะสวนถูกจัดวางไว้ให้ดูสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ แถมมีมุมให้ถ่ายรูปจำนวนมาก และยิ่งสวนถูกปกคลุมด้วยหิมะปุกปุยหนานุ่มยิ่งชวนหลงใหล
วันสุดท้ายก่อนกลับไม่ลืมเข้าวัดเสาะหาของขลัง หวังชีวิตเจริญก้าวหน้า จึงตื่นเช้ามุ่งสู่ศาลเจ้าฮอกไกโด
ศาลเจ้าฮอกไกโด ศาลเทพเจ้าแห่งการบุกเบิก 3 องค์ เป็นศาลเจ้าที่สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง ปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้ผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวฮอกไกโดอย่างลึกซึ้ง เริ่มตั้งแต่การมาสักการะในวันปีใหม่ การปัดเป่ารังควาน พิธีสมรสและอื่นๆ เป็นต้น
ต้องตื่นตาอีกครั้งเพราะตลอดทางเดินเข้าสู่ศาลเจ้าถูกปกคลุมด้วยหิมะ แบบสุดลูกหูลูกตา สวยงามจนแทบหยุดลมหายใจไว้ตรงนี้
เมื่อมาถึงซัปโปโร ไม่พลาดที่จะนั่งรถต่อไปยังทะเลสาบชิโคะทสึ ที่จัดเทศกาลประติมากรรมน้ำแข็ง ริมทะเลสาบชิโคะทสึ แห่งเมืองจิโตะเซะ (Chitose-Lake Shikotsu Ice Festival) เป็นอีกงานที่ขึ้นชื่อของฮอกไกโด ที่สร้างประติมากรรมน้ำแข็ง ด้วยการฉีดน้ำจากทะเลสาบขึ้นมา เพื่อเนรมิตให้เกิดสารพัดรูปร่างสวยงามน่าชม เป็นเมืองน้ำแข็งสีฟ้าอย่างน่าประหลาดใจ
หนาวนี้ที่ซัปโปโร เป็นหนาวที่ต้องจดจำ ตื่นตาตื่นใจด้วยความสวยงามของเทศกาลหิมะและน้ำแข็ง ชมความงามของเมืองท่ามกลางความหนาวเหน็บ เพราะตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายของการเที่ยว ที่ต้องดูแลสุขภาพ เพราะนอกจากความหนาวเย็น ยังต้องระวังตัวจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
ตลอดการเดินท่องเที่ยวในใจก็ท่องไว้ว่า ซัปโปโร…โควิด-19 เราต้องรอด และก็กลับไทยอย่างปลอดภัย
พัทธ์ธีรา วงษ์อัศวกรณ์