คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
อธิคม สิงขรณ์
เรื่อง/ภาพ
เย็นวันที่ 17 พ.ค. พนักงานบริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) สาขาจันทบุรี ก็ต้องช็อกกับเหตุสยองขวัญที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
เมื่อจู่ๆ มีชายฉกรรจ์ชุดดำบุกเข้าไปในสำนักงานที่ตั้งอยู่ริมถนนท่าแฉลบ กลางเมืองจันทบุรี ชักปืนรัวยิงใส่น.ส.ปภัสรา หรือขวัญ มิตรภักดี อายุ 26 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.ฉมัน อ.มะขาม จ.จันทบุรี พนักงานบัญชีของบริษัท ที่นั่งทำงานอยู่โต๊ะด้านในสุด
คนร้ายยังแสดงความโหดเหี้ยม เดินตรงเข้าไปจ่อยิงร่างของหญิงสาวที่นอนหายใจรวยรินอยู่ที่พื้นหลังโต๊ะทำงาน จนกระสุนปืนหมดแม็กกาซีน ก่อนรีบวิ่งหลบหนีไป ท่ามกลางความตื่นตะลึงของเพื่อนร่วมงานทั้งหมด
หลังรับแจ้งเหตุไม่นาน ร.ต.อ.อภิชาติ โกเนตร์สุวรรณ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.จันทบุรี ก็นำกำลังรุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมพล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบก. พ.ต.อ.สุเทพ บุญค้ำ ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. หน่วยกู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี
เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบผู้ตายถูกยิงจนร่างพรุน ด้วยกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. กระสุนเข้าที่เข้ากกหูด้านซ้าย, ต้นคอ, เหนือราวนมด้านขวา, ชายโครงด้านซ้าย, ต้นแขนซ้าย 1 นัด และต้นขาขวา รวม 6 นัด
ในที่เกิดเหตุยังเกลื่อนไปด้วยปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ที่ตกอยู่รวม 10 ปลอก
สอบสวนเพื่อนพนักงานที่ยังอยู่ในอาการตกใจ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน คือนายบดินทร์ หรือโบ๊ท พ่วงพี อายุ 28 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.วันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี อดีตสามีของผู้เสียชีวิตที่เพิ่งเลิกรากันได้แค่เดือนเศษ
ก่อนเกิดเหตุขณะที่พนักงานทุกคนกำลังเก็บเอกสาร เพื่อเตรียมปิดสำนักงานประจำวัน
ขณะนั้นเองนายบดินทร์ก็เปิดประตูสำนักงานเข้ามา แต่ไม่มีใครให้ความสนใจ เพราะรู้จักกันเป็นอย่างดี
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนายบดินทร์ชักอาวุธปืนที่เตรียมมา ลั่นไกใส่น.ส.ปภัสราที่กำลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนร่วมงานที่ข้างโต๊ะทำงานของตัวเอง
เมื่อ น.ส.ปภัสราล้มลงเพราะพิษคมกระสุนปืน นายบดินทร์ก็เดินเข้าไปจ่อรัวยิงชนิดไม่นับ จนลูกปืนหมดแม็ก ก่อนรีบวิ่งหนีออกจากสำนักงานขับรถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส สีเงิน ทะเบียน กค 5277 ตราด หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ยังทราบว่า ผู้ตายและนายบดินทร์อยู่กินฉันสามีภรรยากันมานานกว่า 2 ปี แต่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันจนผู้ตายต้องขอแยกทางเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
จากนั้นไม่นานผู้ตายก็ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองจันทบุรี ว่าถูกนายบดินทร์ทำร้ายร่างกาย อีกทั้งยังเคยบ่นให้เพื่อนที่ทำงานฟังว่า นายบดินทร์พยายามตามมาขอคืนดี พร้อมทั้งกล่าวอาฆาต ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย จนนายบดินทร์บุกมายิงตายคาบริษัทในที่สุด
หลังทราบข้อมูลทั้งหมด เจ้าหน้าที่รีบกระจายกำลังออกติดตามตัวทั้งแกะรอยจากภาพวงจรปิดตามเส้นทางที่หลบหนี และกลุ่มคนที่พอรู้จักกับผู้ต้องหา มุ่งเป้าไปที่บ้านพักและบ้านญาติตามอำเภอต่างๆ
เพียง 2 ชั่วโมงหลังก่อเหตุนายบดินทร์ก็จนมุมเจ้าหน้าที่คาบ้านญาติที่ อ.ขลุง พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 45 นัด ขณะเก็บข้าวของเตรียมหลบหนีความผิด
เมื่อสูญสิ้นอิสรภาพหนุ่มโหดก็สารภาพแต่โดยดี อ้างว่าเกิดจากความหึงหวงที่ถูกผู้ตายบอกเลิก และพยายามตีตัวออกห่าง
วันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ มีตำรวจกว่า 100 นาย คอยกันฝูงชน เพื่อนร่วมงาน และญาติของผู้ตายที่มาเฝ้ามุงดู พร้อมตะโกนสาปแช่งต่างๆ นานา
ทันทีที่ทำแผน เสร็จก็รีบนำตัวกลับ เพราะกลุ่มคนที่ยังโกรธแค้นต่อความเหี้ยมโหดของนายบดินทร์พยายามฝ่าด่านเจ้าหน้าที่เข้าไปรุมประชาทัณฑ์จนเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย
แม้ผู้ต้องหาจะรอดตัวจากโทษทัณฑ์ทางสังคมครั้งนี้ไปได้ แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ต้องเข้าไปชดใช้ความผิดอยู่ในคุกอีกนาน