MG ส่ง New MG Extender กระบะตัวใหม่ล่าสุดของค่าย ที่มาพร้อมนิยาม “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” เปิดตัวกันแน่นๆ ถึง 9 รุ่น มีทั้งกระบะตอนครึ่ง (Giant cab) และ 4 ประตู (Double cab) ชูความเป็นกระบะพันธุ์ยักษ์ด้วยขนาดกว้าง 1,900 มิลลิเมตร ยาว 5,365 มิลลิเมตร สูง 1,820 มิลลิเมตร สำหรับรุ่น Giant cab ส่วนรุ่น Double cab กว้างและยาวเท่ากันแต่สูงกว่าเล็กน้อยที่1,850 มิลลิเมตร

New MG Extender ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ161 แรงม้า 4,000 รอบต่อนาที ทั้งยังประหยัดน้ำมัน 1 ลิตร สามารถวิ่งได้ 14.1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอัตราการใช้น้ำมันในรุ่นเกียร์ธรรมดา

รูปแบบการขับขี่ที่มีให้เลือกถึง 3 โหมด มาตรฐาน (Normal Mode) ประหยัด (Eco mode) และกำลังสูง (Power Mode) มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และ 4 ล้อ (4WD) ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องหยุดรถ ระบบเกียร์ 6 สปีดธรรมดาและอัตโนมัติ

ด้านโครงสร้าง แชสซีเชื่อมต่อด้วยโรบอตทั้งหมด ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้มากขึ้นถึง 30% ระบบช่วงล่างหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ระบบช่วงล่างหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) ควบคู่กับช่วงล่างแบบ BRIT Dynamic สามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลาย จะบรรทุก จะโดยสาร จะสมบุกสมบันแค่ไหนก็ได้ทั้งหมด ส่วนตัวถังใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) แบบ Ultra-high Strength Body ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ (Projector) พร้อม Daytime Running Lights บันไดข้าง นอกจากนั้นยังมีกล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตกแต่งด้วยวัสดุ Soft touch แผงหน้าปัดดีไซน์สปอร์ต เก็บเสียงได้ดีเยี่ยม เพราะมีฉนวนกันเสียงถึง 9 จุด

นอกจากนี้ยังมีระบบ i-SMART intelligent system ระบบอัจฉริยะที่จะทำให้คุณเป็นหนึ่งเดียวกับรถ ใน 3 ด้าน

  1. Smart Check ช่วยตรวจสอบความผิดปกติของรถ แจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติจอดรถในห้างแล้วลืมหาไม่เจอ i-smart มีเทคโนโลยี Find my car ช่วยให้หารถได้อย่างง่ายดาย
  2. Smart Command ที่ MG เคลมว่า เป็นกระบะรายแรกของไทยที่สามารถสั่งการได้ด้วยเสียงภาษาไทยไม่ว่าจะโทร สั่งการเครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียงภายในรถ และยังสามารถสั่งการผ่าน MG Mobile Application ได้อีกด้วย
  3. Smart Connect เนวิเกชั่นนำทาง รายงานการจราจรแบบเรียลไทม์ บนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว ที่มาพร้อมช่องต่อ USB 2 ช่อง และสามารถเชื่อมต่อกับมือถือด้วยบลูทูธ

ระบบความปลอดภัยของ New MG Extender ยังจัดมาแบบเต็มพิกัด ถุงลมคู่หน้าสำหรับ รุ่น Giant cab และรุ่น Double cab ขับเคลื่อน 2 ล้อ และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย สำหรับรุ่น Double cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนระบบเบรกใช้ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System

  • ABS (Anti-lock Braking System) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน
  • EBD (Electronic Brake Force Distribution) ระบบกระจายแรงเบรก
  • EBA (Electronic Brake Assist) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์
  • SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมการทรงตัว
  • TCS (Traction Control System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
  • HAS (Hill Start Assist System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัด
  • HDC (Hill Descend Control System) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
  • TPMS (Tire Pressure Monitor System) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง
  • BSD (Blind Spot Detection) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา
  • LDW (Lane Departure Warning System) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน

New MG Extender ขณะทดสอบระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)

ราคาของ New MG Extender เริ่มต้นที่ 549,000 บาท ตัวท็อปสนนราคาอยู่1,029,000 บาท มีสีให้เลือก 5 สี Black Knight (ดำ), Metal Ash Grey (เทา), Silver Metallic (เงิน), Arctic White (ขาว)และ Scarlet Red (แดง)

New MG Extender โชว์ความแกร่ง พร้อมให้ได้คุณสัมผัสสมรรถนะแล้วที่โชว์รูม MG ทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน