พระบาง(ตอนจบ):น้าชาติรู้ไปโม้ด

พระบาง(ตอนจบ):น้าชาติรู้ไปโม้ด – ฉบับวานนี้ (19 ..) “มณีโชติถามมาว่า อยากทราบประวัติพระบางที่มาคู่กับพระแก้ว และอยู่ที่วัดใด ใกล้ปีใหม่อยากไปนมัสการ เมื่อวานตอบไปแล้วถึงประวัติ และสถานที่ประดิษฐานปัจจุบันซึ่งอยู่ที่หอพระบาง พิพิธภัณฑ์เมืองหลวง พระบาง ประเทศลาว วันนี้อ่านความเชื่อซึ่งเป็นเหตุแห่งการอัญเชิญกลับจากกรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ย้อนไปรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กองทัพ ที่เข้ายึดครองอาณาจักรล้านช้างได้อาราธนาพระบางและพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่กรุงธนบุรี ตราบรัชกาลที่ 4 กรุงรัตนโกสินทร์ จึงอัญเชิญพระบางกลับหลวงพระบาง

เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกปราบดาภิเษกครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 1 ..2325 โปรดเกล้าฯ ให้เจ้านันทเสนอัญเชิญ พระบางไปประดิษฐานไว้ เมืองเวียงจันทน์ หลังจากสถิตอยู่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 3 ปีเศษ

ต่อมาช่วงปี 2369-2371 เจ้าอนุวงศ์แห่งนครเวียงจันทน์ได้ยกกองทัพเข้าตีหัวเมืองอีสานทั้งหมด ยึดได้เมืองนครราชสีมา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์) ยกกองทัพไปปราบ เมื่อจัดการบ้านเมืองทางอีสานให้เข้าสู่ความสงบเรียบร้อยแล้ว ได้อัญเชิญเอาพระบางลงไปกรุงเทพฯ โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนยศเจ้าพระยาราชสุภาวดีเป็นเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และโปรดให้สร้างพระอารามขึ้นให้เป็นที่ประดิษฐานพระบางไว้นอกกรุง ให้อัญเชิญไปไว้วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร

พระบางประดิษฐานที่วัดจักรวรรดิฯ มาจนถึงรัชกาลที่ 4 ได้เกิดเหตุฝนแล้งต่อเนื่องกันหลายปี ชาวกรุงร่ำลือกันว่าด้วยเหตุที่พระบางและพระแก้วมรกตประดิษฐานไว้ด้วยกัน ความทราบถึงพระเนตรพระกรรณ จึงได้พระราชทานพระบางกลับคืนสู่หลวงพระบาง นับแต่นั้นเป็นต้นมาพระบางได้ถูกอัญเชิญกลับหลวงพระบาง และคงอยู่ในหลวงพระบางตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

เรื่องที่ร่ำลือกันสืบเนื่องมาจากความเชื่อเรื่องผีอารักษ์ประจำพระพุทธรูปสำคัญของอาณาจักรล้านช้าง ว่า ชาวล้านช้างเชื่อถือกันมาแต่โบราณว่าพระพุทธรูปสำคัญย่อมมีผี คือ เทวดารักษาทุกพระองค์ ผู้ปฏิบัติบูชาจำต้องเซ่นสรวงผีที่รักษาพระพุทธรูปด้วย เพราะถ้าผีนั้นไม่ได้ความพอใจก็อาจบันดาลให้เกิดภัยอันตรายต่างๆ หรือถ้าผีที่รักษาพระพุทธรูปต่างพระองค์เป็นอริกัน หากนำเอาพระพุทธรูปนั้นไว้ใกล้กันก็มักเกิดอันตรายด้วยผีวิวาทกัน ขัดเคืองต่อผู้ปฏิบัติบูชา

เชื่อกันดังนี้ โดยยกเหตุที่เกิดขึ้นมาเป็นหลักฐาน ว่า ย้อนไปเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ให้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานเมื่อพ..2327 ครั้งนั้นโปรดให้อัญเชิญพระบางอันเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองหลวงพระบาง แล้วตกไปเป็นของพระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตอยู่ เมืองเวียงจันทน์ ลงมาพร้อมกับพระแก้วมรกต เข้ามาประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เจ้านันทเสน บุตรพระเจ้าล้านช้างกราบบังคมทูลว่าผีซึ่งรักษาพระแก้วมรกตกับพระบางเป็นอริกัน พระพุทธรูป 2 พระองค์นั้นอยู่ด้วยกันในที่ใดมักมีเหตุภัยอันตราย

อ้างอุทาหรณ์แต่เมื่อครั้งพระแก้วมรกตอยู่เมืองเชียงใหม่ กรุงศรีสัตนาคนหุตก็อยู่เย็นเป็นสุข ครั้นพระเจ้าไชยเชษฐาเชิญพระแก้วมรกตจากเมืองเชียงใหม่ไปไว้ด้วยกับพระบางที่เมืองหลวงพระบาง เมืองเชียงใหม่ก็เป็นกบฏต่อกรุงศรีสัตนาคนหุต แล้วพม่ามาเบียดเบียนจนต้องย้ายราชธานีลงมาตั้งอยู่ นครเวียงจันทน์ ครั้นอัญเชิญพระบางลงมาไว้นครเวียงจันทน์กับพระแก้วมรกตด้วยกันอีก ก็เกิดเหตุจลาจลต่างๆ บ้านเมืองไม่ปกติ จนเสียนครเวียงจันทน์ให้แก่กรุงธนบุรี ครั้งอัญเชิญพระแก้วมรกตกับพระบางลงมาไว้ด้วยกันในกรุงธนบุรี ไม่ช้าก็เกิดเหตุจลาจล ขออย่าให้ทรงประดิษฐานพระบางกับพระแก้วมรกตไว้ด้วยกัน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงพระราชดำริว่า พระบางก็ไม่ใช่พระพุทธรูปซึ่งมีลักษณะงาม เป็นแต่พวกชาวศรีสัตนาคนหุตนับถือกัน จึงโปรดให้ส่งพระบางคืนขึ้นไปไว้ นครเวียงจันทน์

และที่สุด สมัยรัชกาลที่ 4 กรุงรัตนโกสินทร์ พระบางจึงคืนกลับหลวงพระบาง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน