หลวงพ่อแคล้ว ฐานิสสโร วัดเขาค้อพัฒนาราม : อริยะโลกที่ 6

หลวงพ่อแคล้ว ฐานิสสโร วัดเขาค้อพัฒนาราม : อริยะโลกที่ 6“พระครูพัชรคณาภิบาล” หรือ หลวงพ่อแคล้ว ฐานิสสโร เป็นพระเถระที่ชาวเพชรบูรณ์ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ช่วยเหลือชาวบ้านโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เอาพลังแห่งพุทธานุภาพขจัดความทุกข์ยาก สร้างขุมกำลังทางปัญญาให้เกิดกับชุมชน

หลวงพ่อแคล้ว ฐานิสสโร

หลวงพ่อแคล้ว ฐานิสสโร

ปัจจุบันวัดเขาค้อพัฒนาราม เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมสำหรับสาธุชนผู้ไปเยือนเขาค้อ

ในอดีตดินแดนแห่งนี้ เคยเป็นสนามรบอันดุเดือดเลือดพล่านมาก่อน ณ ปัจจุบันยังมีอนุสรณ์สถานให้คนได้เยี่ยมเยือนรำลึก

ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเขาค้อพัฒนาราม ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และเจ้าคณะอำเภอหล่มสัก

มูลเหตุที่เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพราะอดีตท่านเป็นโจรมาก่อน ผ่านการใช้ชีวิตจี้ปล้นผู้อื่นมาไม่น้อย แต่ท่านเป็นโจรกลับใจ วางปืนลง ก่อนยุติบทบาท และหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

ในดินแดนถิ่นใต้ 4 จังหวัดชายแดน สมัยเมื่อ 40-50 ปีก่อน ชาวบ้านเมื่อได้ยินชื่อ เสือแคล้ว ทุกคนต้องปิดประตูบ้านเงียบกริบ เพราะกลัวจะโดนทำร้าย เรื่องราวชีวิตของหลวงพ่อแคล้ว เจ้าอาวาสวัดเขาค้อพัฒนารามนั้น ในอัตโนประวัติที่บอกกันมาเป็นคร่าวๆ ว่า ท่านเป็นพี่น้องฝาแฝดของหลวงพ่อคล้าย ฐิตธัมโม วัดน้ำตกธรรมรส จ.ระยอง แต่โชคชะตาเหมือนฟ้าลิขิต ชีวิตท่านต้นร้ายปลายดี

ถือกำเนิดที่หมู่บ้านหัวถิน ต.พังยาง อ.ระโนด จ.สงขลา มีชีวิตอยู่ตามประสาคนมีอันจะกิน พออายุ 12 ปี มีกลุ่มโจรปล้นควายของครอบครัวไป 40 ตัว แถมยังทำร้ายร่างกายโยมแม่และพี่ชายที่ท่านรักอีก จึงเกิดความคับแค้นใจ ไปอยู่กับโจรอีกกลุ่มหนึ่ง เพื่อต้องการที่จะล้างแค้นเอาคืน

จากนั้นก็ร่ำเรียนวิชาโจร รวมถึงคาถาอาคม ท่านอยู่กับโจรประมาณ 8 ปี

พออายุประมาณ 20 ปี ญาติพี่น้องก็ขอร้องให้มอบตัวกับทางการ จนในที่สุดก็ยอมมอบตัว เมื่อไม่มีใครกล้าเป็นพยาน ท่านหลุดหมดทุกคดี

เสือแคล้วละทิ้งความชั่วร้ายหันมาเอาด้านดี ด้วยการเข้าอุปสมบทตามคำแนะนำของพระพี่ชาย แล้วก็ไม่ยอมสึกตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนจบประโยค ป.ธ.4 ศึกษากัมมัฏฐานจากคณะ 5 วัดมหาธาตุ จนช่ำชอง จากนั้นก็ชดใช้กรรมด้วยการช่วยเหลือผู้คน และช่วยเหลือญาติพี่น้องของอีกหลายบุคคลที่ท่านเคยล่วงเกินในอดีต จนกลุ่มญาติเหล่านั้นเห็นความตั้งใจในการทำความดีของท่าน จึงอโหสิกรรมให้

ต่อมาปี พ.ศ.2522 พระมหาแคล้ว ฐานิสสโร ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดสงขลา ได้มาบูรณะถ้ำสมบัติ (เดิมชื่อว่าถ้ำฤๅษี) ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ไว้เป็นอนุสรณ์แก่ชนรุ่นหลัง ขณะนั้น หลวงพ่อแคล้วได้มาบูรณะสถานที่ได้สร้างถาวรวัตถุ ประกอบด้วย ศาลาโรงธรรม หอระฆัง ศาลาโรงฉัน อย่างละ 1 หลัง กุฏิแม่ชี 7 หลัง ห้องอาบน้ำ ห้องสุขา 10 หลัง ศาลพ่อพระกาฬ หอเทพ ถังเก็บน้ำ บันไดพญานาค พระประธานองค์ใหญ่ กระทั่งเสร็จเมื่อปี 2527 แล้วท่านย้ายไป

ต่อมาท่านได้เดินธุดงค์เรื่อยไป จนกระทั่งมาพำนักที่วัดเขาค้อพัฒนาราม จนกระทั่งปัจจุบัน เพื่อสงเคราะห์เหล่าญาติของผู้ที่ท่านเคยทำร้ายในอดีต จนปัจจุบันเวลาก็เนิ่นนานหลายสิบปี ปัจจุบันกลายเป็นพระกัมมัฏฐาน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของชาวเพชรบูรณ์ที่กราบไหว้ได้สนิทใจ

เมื่ออยู่วัดนี้ก็ได้พัฒนาสร้างสถานที่ปฏิบัติ กัมมัฏฐานภายในวัด โดยท่านเป็นพระอาจารย์ สอนกัมมัฏฐาน มีศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้และไกลต่างเดินทางไปศึกษาข้อธรรมกับท่านเป็นประจำเสมอ

วันที่ 5 ธันวาคม 2558 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอ ชั้นพิเศษ ที่ พระครูพัชรคณาภิบาล

สิ่งที่ปฏิบัติมานาน กิจกรรมหนึ่ง คือ การจัดเลี้ยงภัตตาหารพระทุกวันอาทิตย์ปลายเดือน

หลวงพ่อแคล้วเล่าว่า “อาตมาเห็นปัญหาของพระภิกษุบ้านนอก ที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ในเรื่องจตุปัจจัยในการบริโภคของพระภิกษุ-สามเณรที่ขาดแคลน ทำให้พระเณร ไม่ต้องเดินทางไกลไปในเมือง เพื่อแสวงหาจตุปัจจัยให้เพียงพอในการยังชีพของสมณเพศ

หลวงพ่อแคล้ว จึงได้นิมนต์พระภิกษุ-สามเณรมารับมหาสังฆทานที่วัดเขาค้อพัฒนาราม

ปัจจัยที่ได้จากงานบุญใหญ่ หลวงพ่อแคล้ว จะนำไปตั้งเป็นกองทุนส่งเสริมการศึกษาของพระภิกษุ-สามเณร ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้องเรียน จ.เพชรบูรณ์ ณ วัดไพรสณฑ์ศักดาราม

นับเป็นพระสงฆ์ที่น่ายกย่องอีกรูปหนึ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน