พระครูวีรสุธรรมาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอคูเมือง จ.บุรีรัมย์ : อริยะโลกที่ 6

พระครูวีรสุธรรมาภรณ์ หรือหลวงปู่บาล สุวีโร พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีวัตรปฏิบัติดี เป็นทั้งพระนักพัฒนา นักปกครอง นักการศึกษา อีกทั้งยังเป็นพระเกจิอาจารย์ สืบสายธรรมจากพระเกจิหลายรูป อาทิ หลวงปู่เพ็ง ธัมมทินโน วัดบ้านปะเคียบ, หลวงปู่เลื่อน วัดสุดเขต .เมือง .สุรินทร์ เป็นต้น

ท่านยังเป็นพระเถระที่อายุพรรษามากอีกรูปหนึ่งของคณะสงฆ์เมืองบุรีรัมย์ ปัจจุบัน สิริอายุ 80 ปี พรรษา 60 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านโจดหนองฮาง และเป็นเจ้าคณะอำเภอคูเมือง .บุรีรัมย์

พระครูวีรสุธรรมาภรณ์

มีนามเดิม บาล กระแจะจันทร์ เกิดเมื่อปี ..2482 ที่บ้านโจด .ปะเคียบ .สตึก .บุรีรัมย์ (สมัยนั้น)หลังจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านโจด ออกมาช่วยงานทำไร่ทำนาช่วยครอบครัวด้วยความแข็งขัน

เนื่องจากเป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม เมื่ออายุได้ 18 ปี จึงขอให้บิดามารดา นำไปบรรพชาที่วัดโพธิ์ .พุทไธสง .บุรีรัมย์

ครั้นอายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดโพธิ์ .บุรีรัมย์ โดยมีพระครูพุทธพิพัฒน์ เป็นพระอุปัชฌาย์จากนั้น เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนนักธรรมบาลี ที่วัดกลาง พระอารามหลวง .บุรีรัมย์ มุมานะสอบได้นักธรรมชั้นเอก

ขณะเดียวกัน ยังได้ให้ความสนใจด้านวิทยาคม จึงฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมจากหลวงปู่เพ็ง ธัมมทินโน วัดบ้านปะเคียบ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้น ซึ่งหลวงปู่เพ็ง ก็ได้ถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น

นอกจากนี้ ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมจากพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงปู่เลื่อน วัดสุดเขต .เมือง .สุรินทร์ เป็นต้น

นับแต่เข้าสู่ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์ จำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดบ้านโจด .ปะเคียบ .คูเมือง .บุรีรัมย์ วัดบ้านเกิดมาตลอด ช่วงที่เป็นพระหนุ่มไฟแรงหลังออกพรรษาทุกปี ท่านมักจะออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขา โดยเฉพาะป่าตามแนวตะเข็บชายแดนไทยกัมพูชา

ด้วยความที่มีวัตรปฏิบัติดี ทำให้ชื่อเสียงของท่านเริ่มเป็นที่รู้จัก ในแต่ละวันจึงมีญาติโยมจำนวนมากเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ไม่ขาดสาย

สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาคท่านได้ นำมาพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดแห่งนี้ ได้ก่อสร้างถาวรวัตถุอย่างมากมาย อาทิ ศาลาการเปรียญ กำแพงแก้ว ประตูโขง หอระฆัง พระอุโบสถ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาสงฆ์ ท่านบริจาคปัจจัยส่วนตัวให้การสนับสนุนการเรียนการสอนแก่พระภิกษุสามเณร หากรูปใดมีความตั้งใจเรียนและเรียนดี ก็จะจัดหาทุนมอบให้ทุกปี หากรูปใดไม่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนท่านก็ใช้ความเมตตาคอยชี้แนะอบรมสั่งสอน

ลำดับสมณศักดิ์ ..2532 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูวีรสุธรรมาภรณ์ ..2538 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท และ ..2550 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอกในราชทินนามเดิม

ส่วนตำแหน่งทางปกครอง ..2518 เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโจด ..2542 เป็นเจ้าคณะตำบลปะเคียบ ..2529 เป็นพระอุปัชฌาย์ ..2553 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอคูเมือง และพ..2559 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอคูเมือง จวบจนปัจจุบัน

ถึงแม้มีอายุย่างเจ็ดสิบปี อยู่ในช่วงปัจฉิมวัย แต่ร่างกายยังแข็งแรง เนื่องจากท่านไม่ยอมอยู่นิ่ง หากว่างศาสนกิจ จะพาภิกษุสามเณร พัฒนาบริเวณวัดให้มีความสะอาดสวยงามสร้างความเจริญหูเจริญตาแก่บรรดาญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด ดังนั้น จึงยังรับกิจนิมนต์เป็นปกติ

ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท มีความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี ไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ร่วมโลกและให้ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพียงเท่านี้จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขความเจริญ ถือเป็นเพชรเม็ดงามอีกรูปของวงการสงฆ์เมืองบุรีรัมย์โดยแท้

เชิด ขันตี พล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน