คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

มรสุม ขัดแย้ง

ภายใน พลังประชารัฐ

กับ ประชาธิปัตย์

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง – กรณีพรรคพลังประชารัฐกับกรณีพรรคประชาธิปัตย์ มีความเหมือนแต่ก็มีความต่าง
ความเหมือนตรงที่มีจุดขัดแย้งและมีการต่อสู้ดำรงอยู่ภายในพรรค อย่างน้อยกลุ่มของ นายเทพไท เสนพงศ์ ก็มิได้เห็นคล้อยไปกับพรรคอย่างเชื่องๆ
แต่ก็มีจุดต่างกับกรณีของพรรคพลังประชารัฐ
เพราะพรรคพลังประชารัฐมีการลาออกของ 18 กรรมการบริหารพรรคไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ของพรรคประชาธิปัตย์เสมอเป็นเพียงการเงื้อง่า ราคาแพง
ความต่างตรงนี้มาจากปัจจัยอะไร

 

ปัจจัยเพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีคนอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
แม้ว่าภายในพรรคประชาธิปัตย์จะมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งรออยู่ แต่ก็เป็นการนั่งรออย่างเงียบเชียบ ไม่มีการเคลื่อนไหว
จึงเห็นแต่ นายเทพไท เสนพงศ์ เห็นแต่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ตรงกันข้าม ภายในพรรคพลังประชารัฐหลายคนเห็นบทบาทของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เห็นบทบาทของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
เห็นการชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นโดดเด่น

 

ยิ่งกว่านั้น ในพรรคประชาธิปัตย์ยังมี “เงา” ของ นายชวน หลีกภัย ดำรงอยู่
รับรู้กันอย่างกว้างขวางว่า นายชวน หลีกภัย มิได้อยู่เบื้องหลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หากแต่ยังอยู่เบื้องหลังการผงาดขึ้นของ นายจุรินทร์ ลักษณ วิศิษฏ์
จึงเท่ากับเป็นการคุ้มครองไปโดยอัตโนมัติ
ไม่เพียงแต่กลุ่มของ นายเทพไท เสนพงศ์ ไม่กล้าเคลื่อนไหวอย่างโลดโผน หากแม้กระทั่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังต้องเล่นบทจระเข้กบดาน
ทุกสายตาต่างมองไปยังบทบาทของ นายชวน หลีกภัย

 

สถานะและความเป็นจริง พรรคประชาธิปัตย์จึงต่างจากพรรคพลังประชารัฐ
พรรคพลังประชารัฐยืนยันออกมาอย่างเป็นรูปธรรมว่า ความขัดแย้งมีจริง ความต้องการในการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคนั้นมีอยู่จริง
แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังดำเนินไปในลักษณะสะสม รอคอย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน