ยายวัย 71 ปี ปั่นจักรยานออกหาผักบุ้งไปขายกลายเป็นศพนอนเสียชีวิตภายในคลองชลประทานในหมู่บ้านขณะที่มือยังกำผักบุ้งไว้แน่น

(6 พ.ค.61) ร้อยตำรวจเอก ชนินทณ์ อิ่มเจริญชัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งจากนายทวี อบเชย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ว่าเมื่อเวลา 18.30 น. มีชาวบ้านที่ออกหาจับปลาพบศพหญิงสูงวัยนอนเสียชีวิตอยู่ภายในคลองชลประทาน 1 ก. ถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 338 ถนนสายท่าสนุน – เพชรเกษม ห้วยชินสีห์ บ้านใต้หมู่ที่ 4 ตำบลห้วยไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี โดยพระบรมราชานุญาต นำอุปกรณ์รถเคลื่อนที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ เครื่องแสงสว่าง และแพทย์เวร โรงพยาบาลราชบุรี

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบมีญาติคือ นางเอื้อง ปลื้มบำเรอ อายุ 59 ปี เป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิต และญาติ ชาวบ้านต่างมายืนรอเจ้าหน้าที่ที่บริเวณริมคลองชลประทาน และพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ นางบุญส่ง ยัวกอ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/2 หมู่ที่ 5 ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี นอนเสียชีวิตภายในน้ำ ในลักษณะลำตัวจมอยู่ในน้ำ ใบหน้าลอยปริ่มน้ำและยังมีหม่วงงอบติดอยู่ที่ศีรษะ ส่วนที่มือยังกำผักบุ่งไว้แน่นมือ และใกล้กันบริเวณริมคลองชลประทานยังพบรถจักรยานของผู้ตายจอดอยู่ในสภาพปกติ เจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี โดยพระบรมราชานุญาต จึงได้ลงไปช่วยกันนำศพของผู้เสียชีวิตขึ้นมาเพื่อให้แพทย์ได้ทำการชันสูจน์พลิกศพในเบื้องต้น โดยสภาพศพของนางบุญส่ง วัย 71 ปี มีรูปร่างผิวขาว สวมเสื้อยืดสีเขียวขี้ม้าแขนยาวนุ่งกางเกงวอมสีกรมท่า สวมรองเท้าผ้าแบบหุ่มหน้าแข้ง ส่วนที่ศีรษะสวมหมวกไหมพรมปิดใบหน้า และใส่หมวกงอบ คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงเนื่องจากสภาพศพเริ่มแข็งตัว

นางเอื้อง ปลื้มบำเรอ อายุ 59 ปี เป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า ผู้เสียชีวิตอยู่บ้านเพียงลำพัง ส่วนลูกทำงานต่างจังหวัดและจะกลับมาดูแม่ทุกเสาร์ และ อาทิตย์ และมีอาชีพเก็บผักสวนครัว ผักกระเฉด ผักบุ้ง ผักกระฐิน เพื่อนำไปขายภายในตลาดในหมู่บ้าน โดยผู้ตายจะออกจากบ้านด้วยการปั่นรถจักรยาน เวลาประมาณ 10.00 น. ของทุกวันและจะกลับบ้านเวลาประมาณ 3 – 4 โมงเย็น หลังจากทราบข่าวก็ตกใจและรีบโทรศัพท์แจ้งให้ลูกของผู้ตายทราบและรีบพากันมาดูศพโดยที่ทุกคนต่างตกอยู่มรอาการเศร้าเสียใจ

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้ส่งศพให้ทางสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลราชบุรีนำศพไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในการเสียชีวิตก่อนจะมอบศพให้ครอบครัวและญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลศพทางศาสนาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน