เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่สภ.วิสัยเหนือ จ.ชุมพร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านจำนวนมากแห่กันมาดูหน้า นายสนม อายุ 50 ปี และน.ส.จารี อายุ 45 ปีภรรยา ผู้ต้องหางัดแงะขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือนประชาชนหลังถูก พ.ต.ต.อภิชาติ ยังมี สว.สส.สภ.วิสัยเหนือ นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ติดตามจับกุมตัวได้พร้อมของกลางจำนวนมาก โดยมี พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.วรพล ปาลรัตน์ ผกก.สภ.วิสัยเหนือ ร่วมกันเข้าสอบสวน

พ.ต.อ.ภคพล เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากมีชาวบ้าน 2 ตำบล 4 หมู่บ้านมาแจ้งความว่าบ้านเรือนถูกคนร้ายงัดเข้ามาขโมยทรัพย์สิน ซึ่งตำรวจก็ออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาตลอดจนกทั่งช่วงบ่ายวันนี้คนร้ายลงมือก่อนเหตุอีก ซึ่งผู้เสียหายจำหน้าได้คล้ายกับเป็นสามี-ภรรยา บ้านอยู่ ต.ถ้ำสิงห์ อ.เมืองชุมพร ชุดสืบสวนจึงไปตรวจสอบก็พบนายสนม และน.ส.จารี ภรรยาอยู่ในบ้านพร้อมของกลางที่ขโมยมาซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆจำนวนมาก

“สอบสวนทั้งคู่ให้การรับสารภาพ ไม่มีงานทำจึงพากันตระเวนงัดแงะบ้านเพื่อนบ้านตั้งแต่ปี 2559 โดยทรัพย์สินที่ขโมยมาได้ก็นำมาเก็บซุกซ่อนไว้เพราะไม่รู้แหล่งที่รับซื้อของโจร อีกทั้งเมื่อเอาไปขายกลัวถูกตำรวจจับจึงได้แต่ขโมยมาเก็บไว้จนมีมูลค่าหลายแสนบาท และอาจจะถึงล้านบาทได้ โดยของกลางมีทั้งสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ พระเหลี่ยมทอง พระเครื่องรุ่นดังๆ ธนบัตรรุ่นเก่าแก่หลายสิบใบมูลค่าหลายแสนบาท เครื่องประดับที่ทำมาจากทองคำ กระสุนปืน กัญชาแห้งและอุปกรณ์งัดแงะอีกเพียบ” พ.ต.อ.ภคพล ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วย ขณะตำรวจสอบปากคำนายสนม และน.ส.จารี ได้มีลูกสาวอายุ 14 ปีมายืนร้องไห้อยู่หน้าห้องสอบสวน รวมทั้งผู้เสียหายจำนวนมากที่มารอชี้ตัวและตรวจดูของกลางเพื่อหาทรัพย์สินของตัวเอง โดบรายหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า บ้านนี้อาศัยอยู่กัน 3 คนพ่อแม่ลูก ส่วนลูกๆที่โตแล้วแยกย้ายกันไปอยู่ที่อื่น ที่ผ่านมาเมื่อทั้ง 2 คนไม่อยู่บ้านก็ได้ช่วยดูแลลูกสาวมาตั้งแต่ยังเล็กๆจนอายุ 14 ปี ไม่คิดว่าเพื่อนบ้านกันแท้ๆยังจะมาขโมยกันได้ ทั้งที่คอยช่วยเหลือมาทุกอย่าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน