ตุ๋นแชร์ลูกโซ่ ตำรวจ ดส. เฝ้า 3 วัน ดักรวบหนุ่มอดีตลูกจ้างกระทรวงดัง ลวงเหยื่อสูบเงินสูบ 50 ล้าน อ้างเพิ่งโดนโกงมาเหมือนกัน เลยไม่มีเงินคืนผู้เสียหาย

ตุ๋นแชร์ลูกโซ่ วันที่ 11 มิ.ย. พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.กฤช กัญชนะ, พ.ต.ท.วิทวัส บูรณะ, พ.ต.ท.ชยเดช ไคยฤทธิ์ รอง ผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล สว.กก.ดส.บช.น. ร่วมกันจับกุมนายศิริพงษ์ คำประดิษฐ์ หรือเต๋อ อายุ 40 ปี อดีตพนักงานราชการสังกัดกระทรวงแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ.29/2561 ลงวันที่ 16 ม.ค.61 ในข้อหา “ฉ้อโกง” และหมายจับศาลอาญา ที่ 150/2561 ลงวันที่ 26 ม.ค.61 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.ดส.บช.น. ได้รับแจ้งว่านายศิริพงษ์ ซึ่งเคยทำงานเป็นพนักงานราชการ ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไป สังกัดกระทรวงแห่งหนึ่ง โดยอาศัยหน้าที่การงานหลอกลวงประชาชนและข้าราชการในสังกัด ตั้งวงแชร์ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ชื่อกลุ่ม “บ้านศิริ” มีสมาชิกกว่า 140 คน โดยเสนอผลเงินปันผลตอบแทนจำนวนสูง และจูงใจด้วยการแจกเงิน แจกทอง ให้กับสมาชิกภายในกลุ่มดังกล่าว

แผนผังการกระทำความผิดของผู้ต้องหา

แผนผังการกระทำความผิดของผู้ต้องหา

นอกจากนี้นายศิริพงษ์ ยังได้เปิดกลุ่มไลน์แชร์อีกหลาย 10 กลุ่ม เช่น บิ๊กบิด, โอ่งมังกร, เทกระจาด ฯลฯ ตั้งแต่ปี 2559-2560 จนมีคนหลงเชื่อร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้านบาท จากนั้นนายศิริพงษ์ ก็ได้ปิดกลุ่มหนีไป ทำให้มีผู้เสียหายเกือบ 200 คน และมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท ก่อนที่ผู้เสียหายจะรวมตัวกันไปแจ้งความ จนศาลอนุมัติออกหมายจับ ต่อมาได้มีหนังสือจากต้นสังกัดให้นายศิริพงษ์ ออกจากราชการ เนื่องจากขาดราชการหลายวัน ก่อนที่นายศิริพงษ์ จะหลบหนีไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายศิริพงษ์ ได้หนีหมายจับของศาลมาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรการเคหะนนทบุรี อาคาร 6 ชั้น 4 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงได้นำกำลังไปเฝ้าติดตามนานกว่า 3 วัน จึงพบผู้ต้องหาขณะกำลังเดินออกจากที่พัก จึงได้แสดงหมายจับเข้าจับกุม ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน

กลุ่มผู้เสียหายรุดขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับคนร้ายได้

กลุ่มผู้เสียหายรุดขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับคนร้ายได้

จากการสอบสวน นายศิริพงษ์ ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ตนยอมรับว่าได้เป็นท้าวแชร์ทางแอพพลิเคชั่นไลน์จริง แต่เปิดเพียงประมาณ 20 กลุ่มเท่านั้น และได้เงินไปเพียง 20 ล้านบาท แต่ตนก็โดนโกงไปอีกทอดหนึ่ง จึงไม่มีเงินนำมาคืนให้กับผู้เสียหายได้ กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว

ขณะที่หญิงสาวหนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งประกอบธุรกิจส่วนตัว กล่าวว่า ตนกับแฟนหนุ่มโดนโกงเงินไปประมาณ 8 แสนบาท โดยรู้จักผ่านเพื่อนมาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งตนเห็นว่าทำงานราชการ จึงเกิดความไว้ใจ แต่ไม่คิดว่าจะมาหลอกลวงกันได้ ซึ่งเงินที่โดนโกงไปต้องมาใช้ทำธุรกิจทำมาหากิน จนตอนนี้แทบจะหมดตัวแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน และ สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้เสียหาย ที่ถูกคนร้ายรายนี้ฉ้อโกงไป ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ เพื่อแจ้งความอายัดตัวดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน