โวยเละศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านโป่ง ทำข้อมูลรั่ว หลังรับร้องเรียนจากชาวบ้านกลับเอารายชื่อไปแจ้งคู่กรณีที่เป็นเทศบาล จนชาวบ้านถูกข่มขู่ เผยเป็นกรณีเทศบาลจะนำศาลาอเนกประสงค์ที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างไปใช้เป็นสภาเกษตร แต่ชาวบ้านไม่ยอม ด้านปลัดอำเภออ้างต้องส่งรายชื่อไปให้เทศบาลจะได้รู้ว่าใครเดือดร้อน ส่วนหากถูกข่มขู่ก็ให้ไปแจ้งความตำรวจเอาเอง เผยก่อนหน้านี้เคยมีหลายกรณีที่ข้อมูลรั่วไหล จนทำให้เสื่อมศรัทธา ด้านอธิบดีกรมการปกครอง ปกป้อง ชี้เป็นเจตนาดี แต่กำชับให้ใช้ดุลพินิจมากกว่านี้ และห้ามเปิดเผยชื่อผู้ร้องเรียนอีก

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่ามีชาวบ้านหมู่ที่ 11 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จำนวนกว่า 100 คน รวมตัวกันบริเวณหน้าศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านโป่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในที่ว่าการอำเภอบ้านโป่ง จึงรุดตรวจสอบพบชาวบ้านถือป้ายร้องขอความเป็นธรรม และระบบการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม อ.บ้านโป่ง หลังจากข้อมูลร้องเรียนของชาวบ้านรั่วไหลจนถูกข่มขู่

โดยนายสุรศักดิ์ เสลาหอม อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/8 ม.11 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ มีชาวบ้านมาร้องเรียนเทศบาลเมืองท่าผา ว่าจะมายึดศาลาอเนกประสงค์ ที่ชาวบ้านร่วมใจกันสร้างในพื้นที่ของชลประทาน มานานกว่า 20 ปี โดยเทศบาลจะมาขอศาลาแห่งนี้ไปเป็นสำนักงานสภาเกษตร แต่ชาวบ้านไม่ยอมเพราะใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของหมู่บ้าน จึงร่วมลงชื่อร้องเรียน

หลังจากนั้นปรากฏว่ารายชื่อที่ชาวบ้านมาร้องเรียน ถูกถ่ายเอกสารส่งไปให้เทศบาล ทำให้ทางเทศบาลส่งคนออกมาข่มขู่ว่าจะ ฟ้องร้อง ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว ทั้งที่ชาวบ้านนั้นคิดว่าศูนย์ดำรงธรรมเป็นที่พึ่ง แต่กลับปล่อยข้อมูลรั่วไหล จึงอยากให้ผู้อำนวยการศูนย์ออกมาชี้แจง

ต่อมานายสุชาติ ดือเร๊ะ ปลัดอาวุโส อำเภอบ้านโป่ง ออกมาชี้แจงว่า ในระบบการร้องเรียนศูนย์ ต้องส่งข้อมูลให้กับเทศบาลทราบว่ามีชาวบ้านคนไหนบ้างที่เดือดร้อนจากการยึดศาลาอเนกประสงค์ เพื่อให้ทางเทศบาลได้รับทราบ และพิจารณาว่าสมควรที่จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านถูกข่มขู่ ขอให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกันเอง จึงสร้างความ ไม่พอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก และ จากนี้ไปชาวบ้านจะได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปถึงนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ในขณะที่กลุ่มชาวบ้านร้องเรียนอยู่ มีชาวบ้านคนอื่นที่กำลังจะเข้ามาเเจ้งข้อมูลด้านยาเสพติด และเรื่องเดือดร้อนต่อศูนย์ ต่างเดินทางกลับบ้าน เพราะเกรงว่าข้อมูลจะรั่วไหลจนไม่ได้รับความปลอดภัย

นอกจากนี้มีชาวบ้านอ.สวนผึ้งมาร้องเรียนเรื่องที่ดิน พอกลับไปไม่นาน ก็ถูกลอบเผารถจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งชาวบ้านที่มา ร้องเรียนเรื่องขยะ ข้อมูลรั่วไหลเช่นกัน จนถูกข่มขู่และถูกฟ้องหมิ่นประมาท จนชาวบ้าน ไม่ไว้วางใจที่จะได้ความเป็นธรรมจากต่อศูนย์ดำรงธรรมอีกต่อไป

ขณะที่ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า จากการสอบถามนายอำเภอบ้านโป่งได้ความว่า มีชาวบ้านมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.บ้านโป่ง หลังจากที่ชาวบ้านในพื้นที่มีปัญหากับทางเทศบาลเมืองท่าผา ในกรณีที่ทางเทศบาลจะนำศาลาประชาคมหมู่บ้านไปทำสภาเกษตร ปรากฏว่าทางศูนย์ดำรงธรรม อ.บ้านโป่ง ไปสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับทางเทศบาล รวมทั้งเพื่อให้ทางเทศบาลแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ซึ่งปลัดเทศบาลสอบถามรายชื่อของประชาชนที่ไปร้องเรียน โดยให้เหตุผลว่าจะไปพูดคุยเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรม อ.บ้านโป่งมีเจตนาดี อยากให้ปัญหาของชาวบ้านได้รับการแก้ไข จึงได้แจ้งรายชื่อให้กับทางปลัดเทศบาลทราบ กระทั่งมาทราบในภายหลังว่าทางปลัดเทศบาล กลับไปพูดจาข่มขู่ชาวบ้าน นายอำเภอบ้านโป่งจึงได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ให้เข้ามารับแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่ามีชาวบ้านถูกข่มขู่แล้ว

ร.ต.ท.อาทิตย์กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันได้สั่งการให้นายอำเภอบ้านโป่งแจ้งเรื่องดังกล่าวไปยัง ผวจ.ราชบุรีในฐานะที่กำกับดูแลเทศบาลด้วย เพื่อให้ผวจ.ราชบุรีพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับปลัดเทศบาลคนดังกล่าว เป็นต้น ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สั่งการให้ทุกศูนย์ดำรงธรรมทั้งระดับจังหวัดและอำเภอ ใช้ดุลพินิจในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนให้ดีกว่านี้ อย่าให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะ เช่นนี้ขึ้นอีก นอกจากนี้ตนได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในศูนย์ดำรงธรรมว่าอย่าเปิดเผยชื่อผู้ร้องด้วยเพราะจะทำให้ทางศูนย์ดำรงธรรมไม่น่าเชื่อถือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน