วันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ในชุมชนแสนสวาสดิ์ 2 บริเวณด้านหลังโรงเรียนอำนาจเจริญ ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ว่าเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าบ้านเกิดเอนล้มลง เนื่องจากเมื่อช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนถล่มในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ อย่างหนัก ประกอบกับมีลมกรรโชกแรง จนทำให้เสาไฟฟ้าดังกล่าวเอนล้มเอง ส่งผลให้สายไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวห้อยระโยงระยางจนเกือบถึงพื้นดิน ชาวบ้านเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายกับผู้ที่สัญจรไปมา และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับบริเวณเสาไฟฟ้าดังกล่าวได้
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงบ้านเลขที่่ 22 หมู่ 3 ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ใกล้กับเสาไฟฟ้าดังกล่าว และเสาไฟฟ้าที่เอนล้มลงห่างจากหน้าบ้านหลังดังกล่าวเพียงแค่ 3 เมตรเท่านั่น ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายวีระวัต จุมทอง อายุ 27 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ที่ได้ติดต่อร้องทุกข์มายังผู้สื่อข่าว ซึ่งจากที่ชาวบ้านได้ร้องทุกข์มาก็พบว่าเสาไฟฟ้าดังกล่าวเอนล้มลงมาตามที่ชาวบ้านบอก และก็ได้ใช้ท่อนไม้มายันค้ำเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวไว้
นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ต่อจากเสาไฟฟ้าต้นด้งกล่าว บางเส้นก็ตึงจนเกือบขาด เนื่องจากเสาไฟฟ้าที่เอนล้มลงมา จึงทำให้ดึงสายไฟเส้นนั่นจนตึง และยังมีสายไฟฟ้าอีกหลายเส้นที่เชื่อมต่อกับเสาไฟฟ้าที่เอนล้มลงมานั่น ต่างพากันห้อยระโยงระยาง จนเกือบถึงพื้นดิน บางเส้นปลอกหุ้มสายไฟก็เริ่มขาดออกจนเห็นสายไฟข้างใน ซึ่งดูแล้วเป็นอันตรายกับชาวบ้านที่สัญจรไปมา และที่อาศัยอยู่ใกล้กับบริเวณดังกล่าว
นายวีระวัต เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เกิดมีพายุฝนถล่มลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ประกอบกับมีลมกรรโชกแรง จึงทำให้เสาไฟฟ้าที่อยู่บริเวณหน้าบ้านของตนเกิดเอนล้มลง ก่อนที่ไฟฟ้าจะดับลงนานถึง 2-3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้มาแก้ไขทำให้ไฟฟ้าใช้การได้ปกติ พอรุ่งเช้าตนออกมาดูก็พบว่าสาเหตุที่ไฟฟ้าดับเกิดจากการที่เสาไฟฟ้าเอนล้มลง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้แก้ไขด้วยการใช้ท่อนไม้มายันค้ำเสาไฟฟ้าดังกล่าวไม่ให้ล้มลงไปกว่าเดิม นอกจากนี้ก็ยังมีสายไฟฟ้าที่ห้อยระโยงระยางจนถึงพื้น เจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้ไม้มายันค้ำไม่ให้สายไฟฟ้าตกลงพื้นดิน
ซึ่งทีแรกตนก็คิดว่าเจ้าหน้าที่คงจะรีบมาแก้ไขเสาไฟฟ้าที่เอนล้มลงมาอย่างถาวรในวันต่อไป แต่หลังจากวันนั้นก็ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาแก้ไขดูแลแต่อย่างใด จนเวลาผ่านล่วงเลยไป 1 อาทิตย์ ตนก็โทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าให้มาตรวจสอบแก้ไข แต่ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดเข้ามาแก้ไขแต่อย่างใดจนเวลาล่วงเลยผ่านมาเกือบเดือนแล้ว ตนจึงอยากร้องทุกข์ผ่านสื่อให้ไปถึงยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูแลแก้ไขหน่อย เพราะเกรงว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้ต่อไป อาจจะเกิดอันตรายกับชาวบ้านได้
