วันที่ 6 ม.ค. ร.ต.อ.ชัชวาลย์ ทอนโพธิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอำนาจเจริญ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์ แล้วหลบหนี บริเวณหน้าสวนพุทธอุทยาน พระมงคลมิ่งเมือง (วัดพระใหญ่) จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยอำนาจเจริญ และแพทย์เวรโรงพยาบาลอำนาจเจริญ

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 3 ราย นอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถเก๋งนิสสัน มาร์ช สีทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง และชีพจรเต้นอ่อนมาก เจ้าหน้าที่เร่งช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอำนาจเจริญ ทราบชื่อคือด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี น.ส.วิไลพร เทพารักษ์ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นแม่ และด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 6 ปี ลูกสาวอีกคน ทั้งหมดอาการสาหัส ก่อนที่ ด.ญ.เอ จะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ย้าย น.ส.วิไลพร และ ด.ญ.บี ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสรรสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี เนื่องจากอาการโคม่า

ส่วนในที่เกิดเหตุยังพบรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กทข 417 อำนาจเจริญ ล้มคว่ำอยู่สภาพด้านท้ายถูกชนจนยุบ และรถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีขาวแดง ทะเบียน 1กข 9721 อำนาจเจริญ ซึ่งมีนางจันเพ็ญ เต็มสุข อายุ 54 ปี และด.ญ.ซี (นามสมมุติ) อายุ 1 ขวบ เป็นผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย นอกจากนี้ยังพบแผ่นป้ายทะเบียน กจ 9314 ศรีสะเกษ ตกอยู่ 1 แผ่น เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมลายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามนายวัฒนา นามเดช อายุ 23 ปี รปภ.ห้างสรรสินค้าเซ็นเตอร์พี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่ตนเข้าเวรอยู่หน้าห้าง ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวนพุทธอุทยานพระมงคลมิ่งเมือง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังโครม เหมือนรถชนกัน จึงรีบออกมาดู ก็เห็นรถเก๋งคันหนึ่งไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น สีและหมายเลขทะเบียน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมืดมาก วิ่งมาด้วยเร็วชนกับรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์ ซึ่งมี 3 แม่ลูก ขับขี่และซ้อนท้ายกันมา แล้วลากเอาทั้งร่างและรถจยย.ไปกับพื้นถนนไกลกว่า 100 เมตร ก่อนที่ร่างของ 3 แม่ลูกจะหลุดกระเด็นออกมากระแทกกับรถเก๋งนิสสันมาร์ช ที่กำลังเลี้ยวออกจากซอย ส่วนรถจยย.ก็กระเด็นหลุดไปกระแทกกับรถกระบะที่ขับตามหลังมา ก่อนจะไปเกี่ยวกับรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีขาวแดง จนล้มคว่ำอีกคันหนึ่ง หลังจากนั้นรถเก๋งคันที่ก่อเหตุก็ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง จ.มุกดาหาร อย่างรวดเร็ว

ขณะที่ร.ต.อ.ชัชวาลย์ เปิดเผยว่า สำหรับแผ่นป้ายทะเบียนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะเป็นของรถคันที่ก่อเหตุ ซึ่งจะได้ติดตามตัวเจ้าของรถมาสอบปากคำ หลังจากนี้จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนดำเนินการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน