จับ2แม่ลูก หลอกขายกระทงเปลือกข้าวโพดผ่านเฟซบุ๊ก เหยื่อหลงเชื่อโอนเงิน แต่ไม่ได้รับของ สูญเป็นล้าน แถมยังหลอกชาวบ้านโอทอปสั่งทำกระทงแล้วไม่จ่ายเงิน ชาวบ้านไม่กล้าแจ้งความเพราะเป็นอดีตขรก.

จับ2แม่ลูก / เมื่อเวลา 11.45 น.วันที่ 23 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. และพ.ต.อ.สมชาย จันทร์คง รอง ผบก.ปคบ.

แถลงการจับกุม นางสมฤดี เต็มเปี่ยม และน.ส.เพ็ญพิชชา เต็มเปี่ยม 2 แม่ลูก ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังมีประชาชนกว่า 40 ราย ซึ่งเป็นผู้เสียหายถูกหลอกซื้อกระทงเปลือกข้าวโพด จากเฟซบุ๊กของกลุ่มผู้ต้องชื่อ “กระทงเปลือกข้าวโพดราคาถูก” รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท

โดยมีราคาตั้งแต่ 25-200 บาท และต้องสั่ง 50 ชิ้นขึ้นไป ซึ่งผู้เสียหายสั่งซื้อและโอนเงินไป แต่กลับไม่ได้ของตามที่สั่งหรือไม่ครบตามจำนวนที่สั่ง และเมื่อผู้เสียหายทวงถามไปยังผู้ต้องหาก็บ่ายเบี่ยงที่จะส่ง พร้อมข่มขู่อีกว่า หากไปแจ้งความจะฟ้องกลับทั้งหมด

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนขยายผลพบว่า กลุ่มผู้ต้องหายังได้หลอกชาวบ้านโอทอป ต.ลานดอกไม้ อ.โกสัมพี จ.กำแพงเพชร กว่า 20 คน ที่เป็นแหล่งผลิตกระทงเปลือกข้าวโพดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือสั่งกระทงแล้วไม่จ่ายเงิน แต่ชาวบ้านไม่กล้าที่จะไปแจ้งความ เพราะผู้ต้องหาเป็นอดีตข้าราชการและแต่งตัวภูมิฐาน จึงไว้ใจ ไม่คิดว่าจะเป็นมิจฉาชีพ

กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ จากนั้นเมื่อสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม พบว่าคนร้ายกระทำที่ผิดต่อพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในลักษณะนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ จึงเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังแถลงผลการจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่าในคดีโรแมนซ์สแกม และ คดีคอลเซ็นเตอร์ในช่วงวันที่ 17-23 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมได้เพิ่มเติมรวม 20 ราย 25 หมายจับ ซึ่งผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นคนไทย ที่รับหน้าที่ในการเปิดบัญชีให้กับกลุ่มขบวนการคอลเซ็นเตอร์ถือว่ามีความผิดร่วมด้วย

รรท.ผบช.สตม. กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะดำเนินการจับกุมหญิงไทยที่แต่งงานจดทะเบียนกับต่างชาติ เพื่อสามารถให้เข้ากระทำความผิดในไทยได้ โดยที่ผ่านมาตำรวจดำเนินการกวาดล้างขบวนการดังกล่าวอย่างจริงจัง จากเดิมที่มีหมายจับ 300 หมาย จนตอนนี้เหลือเพียง 54 หมายจับ สำหรับคนไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน