แม่น้ำตานอง! จี้ถามจิตสำนึกหญิงขับ ชนลูกสาว ปล่อยให้ตายคาร่องถนน

จากกรณีน.ส.วันวิสา หรือน้องเฟิร์น เอี่ยมทอง อายุ 19 ปี ชาวอ.สวี จ.ชุมพร ถูกรถเก๋ง ทะเบียน 1กช 2364 กทม. โดยมีหญิงสาวเป็นคนขับและเสียหลักพุ่งชน ขณะน้องเฟิร์นยืนรอข้ามถนน เพื่อเข้าทำงานที่ปั๊มน้ำมันฝั่งตรงข้าม บริเวณริมถนนสายเอเชีย 41 อ.สวี จ.ชุมพร จนร่างกระเด็นตกหนองน้ำข้างทางเสียชีวิต ส่วนผู้โดยสารที่มากับรถเก๋งทั้งหมด 5 รายได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

แต่หลังเกิดเหตุคนขับอ้างไม่รู้ว่ารถเสียหลักชนน้องเฟิร์น จนกระทั่งเรื่องแดงขึ้นเมื่อโทรศัพท์ของน้องเฟิร์นตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และหน่วยกู้ภัยฯได้ประกาศหาเจ้าของผ่านทางเฟชบุ๊ก โดยนางไพลิน สิงค์ช่วย อายุ 50 ปี มารดาน้องเฟิร์นได้โทรศัพท์คืน พร้อมถามหาลูกสาวและให้หน่วยอาสากู้ภัยค้นหาบริเวณเกิดเหตุและเป็นสถานที่เดียวกับน.ส.วันวิสายืนรอข้ามถนน จนกระทั่งพบเป็นศพอยู่ในหนองน้ำข้างทาง ตามที่เป็นข่าวเมื่อเช้าวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา อ่านข่าว โยงปมเก๋งคว่ำ! สาวปั๊มวัย 19 หายตัว แม่ตามเจอเป็นศพจมน้ำ เพราะโทรศัพท์ที่ไม่มีเจ้าของ

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักในซอยบ้านพรุทอง ต.นาโพธิ์ อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของน้องเฟิร์น พบนายวัชรินทร์ นางไพลิน เอี่ยมทอง บิดามารดา น.ส.วันวิสา และนายดำรง ยุติมิตร อายุ 62 ปี เป็นคุณตา โดยมีญาติและเพื่อนบ้านอยู่ในงานสวดอภิธรรมศพอีกจำนวนหนึ่ง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

นางไพลินที่ยังอยู่ในอาการเศร้าและยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกสาว พร้อมทั้งเรียกร้องความเป็นธรรมและจิตสำนึกของคนขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว โดยเล่าว่า หลังเกิดเหตุหญิงสาวคนขับรถได้นัดเจรจาครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่หน้าสภ.สวี โดยมีตัวแทนบริษัทประกันและญาติรวม 5 คนเดินทางร่วมด้วย เมื่อเห็นหน้าตนถึงกับก้มกราบและบอกว่า “ขอโทษ เขาไม่เห็นน้อง เขาไม่รู้ว่าเขาชนน้อง” ตนเลยบอกว่าทำไมใจร้ายจัง ถ้าบอกตอนเกิดเหตุน้องเฟิร์นคงจะไม่เสียชีวิต น้องคงจะเจ็บทรมานอยู่นานก่อนเสียชีวิต ปล่อยให้น้องนอนอยู่อย่างนั้นเป็นวัน และถ้าไม่เจอโทรศัพท์คงไม่รู้ว่าน้องไปไหน อาจจะขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นแล้วถึงจะรู้

นางไพลินเล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า สังเกตเห็นหญิงสาวคนขับรถไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร มีเพียงรอยถลอกเล็กน้อยบริเวณหน้าผากเท่านั้น จึงบอกว่าน่าจะมีจิตสำนึกให้มากกว่านี้ หลังจากนั้นยอมชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 5,000 บาท และวันเสาร์ที่ 23 ธ.ค.จะนำเงินมาจ่ายให้อีก 15,000 บาท แต่ถ้าตนต้องการมากกว่านี้ให้ไปฟ้องศาล

หลังจากนั้นนางไพลินและนายวัชรินทร์ ขอผู้สื่อข่าวดูคลิปข่าวในวันเกิดเหตุ ทำให้ทั้งสองสามีภรรยาไม่สามารถเก็บความรู้สึกสูญเสีย ในการจากไปของลูกสาว โดยนายดำรง ตาของน้องเฟิร์น เล่าว่า หลานเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้กับครอบครัว หลังเลิกงานประจำที่ปั๊มน้ำมันจะขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างวิ่งหาเก็บของเก่าขาย ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่เป็นประจำทุกวัน ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ส่วนศพของหลานจะฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 23 ธ.ค. ณ เมรุวัดโพธิเกษตร อ.สวี

ด้านตำรวจกล่าวว่า หลังรวบรวมพยานหลักฐาน คนขับรถเก๋งคันดังกล่าวคือ น.ส.ธัยรัตน์ เก่งการค้า ได้เฉี่ยวชนคนเดินเท้าคือน.ส.วันวิสา เป็นเหตุให้เสียชีวิต พร้อมทั้งให้การว่าวันเกิดเหตุมีฝนตกหนักถนนลื่น ทำให้รถเสียหลักลงข้างทาง แต่ไม่ทราบว่าชนน.ส.วันวิสาเสียชีวิต ลังเกิดเหตุน.ส.ธัยรัตน์และญาติผู้เสียชีวิตได้นัดเจรจาและมอบเงินจำนวน 5,000 บาท แก่นางไพลินไว้ก่อนเบื้องต้นแล้ว ส่วนคดีนั้นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาแก่น.ส.ธัยรัตน์ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน