วันที่ 21 ม.ค ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากร้านทองเพชรสุวรรณ เลขที่ 35 ศูนย์การค้าระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง กรณีที่นายสงกรานต์ ศึกษาธรรม อายุ 56 ปี ชาว ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง มีอาชีพขายขนมไทย ในตลาดบ้านค่าย ได้เดินทางเข้ามาซื้อสร้อยคอทองคำที่ร้าน โดยเป็นจุดสนใจของลูกค้าเป็นอย่างมาก ต่างก็มองด้วยความรู้สึกว่าจะมาซื้อทองหรือมาจำนำกันแน่ เพราะว่ารูปร่างหน่าตาผิวพรรณที่ดำคล้ำ โดยเฉพาะเสื้อที่นายสงกรานต์ สวมใส่มามีสภาพโทรมๆ เป็นเสื้อเชิ๊ตสีขาวลายเขียวเสื้อบริเวณด้านหลังปกลงมาถึงแขนขาดเป็นรอยกว้าง เผยให้เห็นผิวเนื้อ
โดยนายสงกรานต์ เดินตรงเข้ามาที่หน้าตู้ทองคำภายในร้าน พร้อมแจ้งว่าจะขอดูลายของสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท เน้นให้เอาลาย “โรเล็กซ์” เจ้าของร้านจึงหยิบสร้อยคอทองคำส่งให้ดู หลังจากที่เลือกลายได้แล้ว นายสงกรานต์ ก็บอกว่าต้องการสร้อยคอหนัก 5 บาท 1 เส้น ลูกค้าในร้านและเจ้าของร้านต่างฉงน เป็นจังหวะ ที่นายสงกรานต์ ได้ควักเงินออกมาจากกระเป๋ามา 1 ปึก เป็นธนบัตรใบละหนึ่งพันบาททั้งหมด พร้อมทั้งถามราคาของสร้อยเส้นดังกล่าว ซึ่งมีราคาประมาณ 1 แสนบาท แล้วจ่ายเป็นค่าสร้อยทองทันที ท่ามกลางบรรดาลูกค้าที่มองกันตาค้างแทบไม่เชื่อสายตา ก่อนที่นายสงกรานต์ จะหยิบสร้อยมาสวมใส่
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายสงกรานต์ ได้ เปิดเผยกับ นายชนนณัฐ สิทธิสารภาณ อายุ 59 ปี เจ้าของร้านทองเพชรสุวรรณ ว่าได้ไปแจ้งความไว้กับ พ.ต.ท.กตัญญู พ่วงเกาะ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง หลังจากสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ได้หายไปขณะที่ออกมาขายขนมในตลาดเมื่อเช้ามืด เป็นลายโรเล็กซ์ หลังเดินหาจนทั่วตลาดก็ไม่เจอ จึงเข้าแจ้งความไว้ ด้วยความที่กลัวภรรยาจะบ่น หลังจากเก็บร้านจึงรีบมาซื้อทองทันที และเพื่อแจ้งร้านทองหลายแห่งให้ช่วยดู หากพบใครเอาสร้อยทองคล้ายของตนที่หายไปมาขายให้แจ้งตำรวจทันที ซึ่งทางร้านทองก็ยินดีที่จะช่วยตรวจสอบให้
เมื่อสอบถาม นายสงกรานต์ เกี่ยวกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ ทำไมจึงไม่ยอมใส่เสื้อผ้าใหม่ที่ไม่ขาด เพราะมีเงินทองพอที่จะซื้อเปลี่ยนได้ นายสงกรานต์ ได้ตอบว่า ตนไม่ได้ให้ความสำคัญ เสื้อใส่ได้ก็ใส่ไป ไม่จำเป็นต้องเลิศหรูเพราะใส่มาทำงานหยิบตัวไหนได้ก็ใส่เลย แต่หากไปงานสำคัญก็จะเลือกที่เหมาะสมกับงาน
จากการสอบถามแม่ค้าในตลาดบ้านค่าย ที่นายสงกรานต์ขายขนมอยู่ ต่างก็ยืนยันว่า นายสงกรานต์ มักจะใส่เสื้อกระทั่งขาดจนไม่สามารถใส่ได้จึงจะทิ้ง จนเป็นภาพที่ชินตากับเสื้อผ้าที่สวมใส่ เพราะเห็นกันมานานแล้ว
