จับแล้ว! 2 โจรขี้ยา ตระเวนลักตู้เติมเงิน 20 กว่าแห่ง เดือดร้อนทั่วกระบี่

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. พ.ต.ท.นพดล กล่อมพงษ์ สว.สส.กก.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.ท.อาวุธ ขำแผลง สว.สส.ภ.จว.กระบี่ ร.ต.อ.พีรศักดิ์ ปากบารา รอง สว.สส.ภ.จว.กระบี่ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เหนือคลอง ร่วมกันจับกุมนายพัทธพงษ์ หรือนาหรีน ทรงนาศึก อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/6 หมู่ที่ 2 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และนายสมพงษ์ หรือเล็ก เพ็ชรสวัสดิ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ม.5 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่

ทั้งสองคนเป็นผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในเวลากลางคืน และร่วมกันมีอาวุธปืนปละเครื่องกระสุน โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางอาวุธปืน ขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน มาทำการสอบสวนที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และนำตัวไปชี้จุดก่อเหตุ ตู้เติมเงิน โทรศัพท์ที่ขโมย จาก ในพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ และอ.เขาพนม หลังจับกุมตัวได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในซอย โรงเรียนบ้านไสโป๊ะ ม.3 ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่

เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า มีคนร้ายก่อเหตุขโมยตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ในพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ อ.เหนือคลอง และอ.เขาพนม โดยมีหลักฐานเป็นภาพคลิปกล้องวงจรปิดจากจุดต่างๆ ที่คนร้ายก่อเหตุ ระหว่างวันที่ 11 ธ.ค. 61 จนถึงวันที่ 22 ม.ค. 62 พบชายสองคนสวมหมวกแก๊ป และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน จากนั้นนำเหล็กเข้ามางัดและยกตู้เติมเงินไปทั้งตู้ นำขึ้นรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่ละจุดใช้เวลาไม่ถึง 10นาที พบก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง สร้างความเดือดร้อนแก่เจ้าของร้านเป็นอย่างมาก

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กระบี่ ได้ลงพื้นที่สืบสวน กระทั่งทราบว่า นายพัทธพงษ์ ผู้ต้องหารายแรก ซึ่งมีลักษณะตามในคลิป และมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังตรวจสอบที่บ้านพัก ในพื้นที่ ม.3 ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง พบผู้ต้องหาอยู่ในบ้านพัก จึงแสดงตัวจับกุม และขยายผลไปยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 ราย คือนายสมพงษ์ ผู้ต้องหารายที่ 2 เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมตัว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ร่วมก่อเหตุลักทรัพย์ตู้เติมเงินมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง โดยจะขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นทะเบียน ตระเวนตามชุมชน เมื่อพบตู้เติมเงินก็จะใช้วิธีหยอดเหรียญลงไป 1-3 เหรียญ เพื่อฟังเสียง เหรียญตก หากไม่ได้ยินเสียงแสดงว่ามีธนบัตรอยู่ จากนั้นจะถอดปลั๊ก และใช้คีมตัดเหล็ก ตัดน็อตที่ฐาน แล้วยกไปทั้งตู้ไปตามที่เปลี่ยว และใช้คีมตัดเหล็กกระแทกให้ตู้แตก

ผู้ต้องหารับสารภาพอีกว่า นำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายและซื้อยาเสพติดมาเสพ ส่วนตู้จะทิ้งในลำคลองและป่าละเมาะ ซึ่งทุกครั้งที่ออกก่อเหตุจะพกปืนไปด้วย เวลามีคนมาเห็นจะได้ยิงปืนขู่ โดยก่อเหตุมาแล้วไม่น้อยกว่า 20 ตู้ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวตรวจค้นของกลางเพิ่มเติม และนำส่งเจ้าพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน