จนท.บุกทลายสำนักสงฆ์เถื่อน พระต่างด้าววิ่งหนีกระเจิง เล็งเอาผิดเจ้าของที่

จนท.บุกทลายสำนักสงฆ์เถื่อน พระต่างด้าววิ่งหนีกระเจิง เล็งเอาผิดเจ้าของที่

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. พ.ต.ท.ณัฐพล จำบุญมา รอง ผกก.ป.สน.ธรรมศาลา ร่วมกับนายกิติศักดิ์ แก้ววิเชียร ผู้อำนวยการกลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และนางสมรรัตน์ อรรถนิตย์ ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์ไม่มีชื่อ ท้ายซอย บจก.บางกอกเพ้นท์ช็อป หมู่ 8 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. หลังสืบทราบว่ามีพระสงฆ์ต่างด้าวเข้ามาสร้างเพิงพักกันอยู่จำนวนกว่า 10 รูป

จากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่ร้างตั้งอยู่ท้ายซอยห่างไกลผู้คน บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ล้อมรอบไปด้วยป่ากก และต้นไม้น้อยใหญ่ เจ้าหน้าที่พบเพิงพักชั่วคราวซึ่งปลูกด้วยไม้ หลังคามุงจาก และมีการกั้นเป็นห้องอาศัย ทั้งใหญ่และเล็ก รวม 7 หลัง เมื่อทราบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามา ทำให้มีพระภิกษุต่างด้าวประมาณ 5-6 รูป วิ่งหลบหนีเข้าป่ากกหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นมีพระภิกษุเพียงรูปเดียวที่ไม่ยอมหลบหนีไปไหน ทราบชื่อคือพระชินบุตร ชินวังโส อายุ 66 ปี ถือหนังสือสุทธิพระสงฆ์สังกัดมหานิกาย ผ่านการบรรพชาจากวัดโสภณาราม จ.เชียงใหม่ อย่างถูกต้อง

จากการสอบถาม พระชินบุตร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้อยู่ที่วัดต้นสังกัด ใน จ.เชียงใหม่ แต่ป่วยด้วยโรคประจำตัวหลายโรค ทำให้ต้องเดินทางมารักษาตัวที่กรุงเทพฯ และมาปลูกเพิงพักทำสำนักสงฆ์ชั่วคราวในพื้นที่ตรงนี้ได้นาน 12 ปีแล้ว ที่ผ่านมามีพระสงฆ์สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาขออาศัยอยู่ด้วยจำนวนมากจากหลายๆ สังกัด และหลายสัญชาติ

“อาตมาเห็นเป็นพระด้วยกันก็ไม่ได้ว่ากล่าวอะไร แต่ให้ทำวัตรของสงฆ์คือออกไปบิณฑบาตโปรดญาติโยม และช่วยกันรักษาความสะอาดเพิงพักให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย อย่าปล่อยให้สกปรกโสมมเพียงเท่านั้น” พระชินบุตรกล่าว

ในระหว่างที่เจ้าพนักงานกำลังตรวจสอบภายในสำนักสงฆ์ดังกล่าวอยู่นั้น ปรากฏมีรถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟต์ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กถ 8709 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาจอด ก่อนจะมีพระสงฆ์ จำนวน 2 รูป ซึ่งเป็นผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ที่นั่งมาด้วยกันลงจากรถ จากการสอบถามพระที่เป็นผู้ขับขี่ทราบว่า เป็นพระสังกัดวัดพระยาทำ สำนักงานเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร มีใบอนุญาตขับขี่ของฆราวาสถูกต้อง ส่วนพระที่มาด้วยกันเป็นพระสังกัดวัดไร่เกาะ จ.นครปฐม

โดยทั้ง 2 รูป รู้จักกับพระชินบุตร ทราบข่าวจากทางโทรศัพท์ เลยรีบพากันมาเยี่ยมเยียน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ร้องขอให้จอดรถคันดังกล่าวเอาไว้ แล้วให้ประสานญาติโยมมาขับรถพาทั้ง 2 รูปกลับไป เนื่องจากหากประชาชนพบเห็นอาจเป็นที่ติฉินนินทา

นายกิติศักดิ์ แก้ววิเชียร ผู้อำนวยการกลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติ พระชินบุตร พบเป็นพระที่ผ่านการบรรพชาอย่างถูกต้อง แต่อาศัยเพิงพักชั่วคราวแห่งนี้อยู่มานานเกินไป โดยไม่ได้ทำหนังสือขออนุญาตจากวัดต้นสังกัด เบื้องต้นในวันพรุ่งนี้ตนจะส่งตัว พระชินบุตร กลับให้วัดโสภณาราม จ.เชียงใหม่ เพื่อให้เจ้าอาวาสพิจารณาจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

นายกิติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนพระสงฆ์อีก 2 รูปซึ่งขับขี่รถยนต์พากันมาเยี่ยมเยียน พระชินบุตร นั้น ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และไม่มีบัญญัติว่าเป็นการกระทำผิดวินัยสงฆ์ ทาง พระราชปริยัตยาภรณ์ เจ้าคณะเขตทวีวัฒนา ที่เดินทางมาด้วยกันกับคณะเจ้าหน้าที่ จึงชี้แจงไปว่าเป็นเรื่องไม่ควร เนื่องจากการขับขี่ยวดยานในพื้นที่กรุงเทพฯ อาจเกิดอุบัติเหตุและทำให้ชาวบ้านติฉินนินทาเอาได้ จึงให้ติดต่อญาติโยมมาขับรถพาพระทั้ง 2 รูปกลับไป

ด้าน นางสมรรัตน์ อรรถนิตย์ ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา กล่าวว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดเหตุฆาตกรรมพระสงฆ์บริเวณกลางซอย ห่างจากสำนักสงฆ์แห่งนี้เพียง 200 เมตร ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องสนธิกำลังกันเข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากพบข้อมูลว่ามีพระสงฆ์ต่างด้าวเข้ามาอาศัยอยู่ ในส่วนของการดำเนินการเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้ขออนุญาต ในพื้นที่นี้นั้น ตนจะเรียกตัวเจ้าของที่ดินมาสอบสวนตามคำสั่งปกครอง ภายใน 7 วัน หากพบว่าเจ้าของที่ดินยินยอมให้กลุ่มพระสงฆ์เหล่านี้ทำการปลูกสร้าง จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะไม่ได้มีการขออนุญาตกับทางสำนักงานเขต

“สำหรับพระที่วิ่งหลบหนีไป 5-6 รูปนั้น ไม่ทราบว่าทำผิดอะไร กำลังประสาน สน.ธรรมศาลา และตำรวจท้องที่ข้างเคียงช่วยกันตรวจหา เพื่อนำตัวมาสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” นางสมรรัตน์ กล่าว