วันที่ 20 มี.ค. ที่ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน, พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์, พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.หัวหิน, พ.ต.ท.เสมอ อยู่สำราญ รอง ผกก.ป. พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงจับกุม นายวิรัช เกตุแก้ว อายุ 56 ปี หลังก่อเหตุยิง นายประยงค์ แก้วฉวี อายุ 68 ปี เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 8 บ้านหนองเสือดำ ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน คือนายนัฐพงศ์ แก้วฉวี ลูกชาย และ นายนิมิต วุฒิไกรกัลยา ลูกเขยผู้ตาย เมื่อกลางดึกวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ธนากร กล่าวว่า สำหรับ นายวิรัช เป็นน้องชายต่างพ่อของผู้ตาย ซึ่งครอบครัวมีพี่น้องรวมกัน 5 คน ได้รับมรดกเป็นที่ดินคนละ 22 ไร่ แต่มีที่ดินและบ้านพักที่อยู่ส่วนกลางที่ยังไม่ได้แบ่ง และผู้ตายมีความคิดที่อยากจะขาย ทำให้มีเรื่องทะเลาะกับนายวิรัช มานานนับปี วันเกิดเหตุนายวิรัช ซึ่งทำงานเป็น รปภ.ที่ จ.สมุทรสาคร เดินทางกลับมาบ้านเพื่อร่วมงานแต่ง และได้มาพูดคุยกับผู้ตายก่อนจะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง กระทั่งเกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนที่พกมา 2 กระบอก ยิงนายประยงค์ จนเสียชีวิต ระหว่างนั้น นายนัฐพงศ์ และนายนิมิต เข้ามาช่วยจึงถูกยิงได้รับบาดเจ็บไปด้วย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
หลังก่อเหตุ นายวิรัช ได้ขี่รถจยย.ฮอนด้าแฟนท่อม สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กก-7302 เพชรบุรี หลบหนีโดยใช้เส้นทางถนนหนองพลับ-ท่ายาง และมีเงินสดติดตัวเพียง 1,000 บาท กระทั่งถึงพื้นที่ ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงนำรถจยย.ไปซ่อนไว้ในป่าละเมาะ แล้วนำอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอกทิ้งลงบ่อน้ำ จากนั้นนั่งรถโดยสารเข้า กทม. เพื่อต่อไปยัง อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ
ในช่วงแรกหวังจะซ่อนตัวที่บ้านของนางยุพยงค์ บุญปลูก ซึ่งเป็นน้องของภรรยาตัวเอง แต่เมื่อได้พูดคุยกับญาต จึงเกิดสำนึกผิดติดต่อขอมอบตัวที่ สภ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน จึงได้รีบไปรับตัวและค้นหาอาวุธปืนปืนที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมรถจยย. ซึ่งนายวิรัช รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวพร้อมหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
