วันที่ 26 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีหมูกระโดดจากรถ ระหว่างการขนส่งไปโรงฆ่าสัตว์ บนถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี–ศรีมหาโพธิ) เข้าไปพึ่งบุญของเจ้าหน้าที่ อส.ประจำ อ.กบินทร์บุรี จึงได้เลี้ยงไว้ ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ว่าการอำเภอกบินทร์บุรี พบ นายไพบูลย์ ภูคำ อส.ประจำอำเภอกบินทร์บุรี ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าบุญหล่นทับ พบหมูตัวหนึ่งหนีตายมา ตอนที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าสนามหน้าที่ว่าการอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ก่อนวันเลือกตั้ง ส.ส.

จากนั้นจึงพาเพื่อนๆ ช่วยกันไปนำตัวมาไว้ที่บ้านพัก พร้อมกับแจ้งตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี ไว้แล้วว่าได้พบเห็นเก็บหมูเพศผู้ตัวหนึ่ง คาดว่าน่าจะโดดลงจากรถบรรทุกหมู ก่อนที่จะถูกส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์ จึงเกิดมีเมตตา หมูตัวดังกล่าวเป็นเพศผู้น้ำหนักประมาณ 50 กก. หลังจากรายงานให้ นายวัลลภ ประวัติวงศ์ อำเภอกบินทร์บุรี ทราบแล้ว จึงนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้านพักหลังที่ว่าการอำเภอกบินทร์บุรี

โดยหมูดังกล่าวไม่มีแผลตามร่างกาย มีแค่อาการขาหลังเคล็ดทั้งสองข้าง ขณะนี้อาการทุเลาลงแล้ว ซึ่งตนเห็นแล้วสงสารมาก จึงนำมาเลี้ยงไว้ที่บ้านพัก ขณะนี้ยังไม่มีใครมาติดต่อเป็นเจ้าของ หากจะเอาไปถวายวัดเกรงว่าอาจเป็นภาระให้กับทางวัดอีก

และไม่คิดที่จะขายต่อให้คนอื่นหรือฆ่าหมูตัวนี้ ยอมรับว่าสงสารมาก คงต้องเลี้ยงไว้ เพราะหนีร้อนมาพึ่งเย็น เป็นอุททาหรณ์ให้เห็นว่าทุกคน ทั้งมนุษย์สัตว์ ต่างรักชีวิตของตัวเอง ไม่มีใครอยากตายในตอนนี้ มันจึงพยายามโดดรถหนี เพื่อเอาตัวรอด หรือ หนีไปตายดาบหน้า คิดแล้วฆ่าไม่ลง ชีวิตเขา–ชีวิตเรา เห็นแววตาเศร้าๆ แล้วใจหาย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ตอนนี้เริ่มคุ้นเคยกัน คอยดูแลให้อาหาร อาบน้ำทำความสะอาดเลี้ยงดูเหมือนลูก ตั้งใจจะชื่อเขาว่า “บุญหล่น” เพราะหล่นออกมาจากลูกกรงเหล็กกั้น จากซองใส่หมูขณะที่กำลังถูกขนไปโรงเชือด ดูแล้วคิดได้ว่าคนเราจะตายวัน-ตายพรุ่งยังไม่รู้ เหมือนกับเจ้าบุญหล่นที่ถูกจับไปส่งโรงเชือด เมื่อมีชีวิตก็ให้รู้จักสร้างบุญ-บารมี โดยให้ทาน, รักษาศีล และสวดมนต์ไหว้พระ ให้มีต้นทุนแห่งบารมีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน