ล่าระทึก กระบะซิ่งหนีรอบเมือง ผงะยัดชาวเมียนมา 32 คน แน่นท้ายรถ ลอบค้าแรงงาน

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ร.ต.อ.มานิต ขำมณี รอง สวป.สภ.คลองวาฬ ขณะขับรถยนต์ออกตรวจพื้นที่ใน ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ บริเวณถนนเพชรเกษม ใกล้ทางเข้าด่านสิงขร สังเกตเห็นรถยนต์ลักษณะต้องสงสัย เป็นรถยนต์กระบะสีขาวยี่ห้ออีซูซุ ตอนเดียว ทะเบียน บย 4198 ชุมพร ด้านหลังกระบะติดตั้งลูกกรงเหล็กเป็นคอก สูงประมาณ 2 เมตร แต่มีผ้าพลาสติกสีฟ้าขาวคลุมปิดไว้ เมื่อคนขับรถเห็นรถยนต์ของตำรวจได้เร่งความเร็ว และวิ่งหนีเลี้ยวเข้าถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าฝั่งขาขึ้นกรุงเทพ เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมาย จึงวิทยุขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันสกัดเพื่อตรวจสอบ

แต่ปรากฏว่า รถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วขึ้น คาดว่าประมาณ 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนพ้นพื้นที่เขตรับผิดชอบ สภ.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.นันทชัย เบ็ญจขันธ์ ผกก.สภ.คลองวาฬ จึงประสานความร่วมมือกับตำรวจใน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และ สภ.กุยบุรี ตั้งจุดสกัด พบว่ารถคันดังกล่าววิ่งไปจนใกล้ถึงเขต อ.กุยบุรี ห่างจากจุดที่พบครั้งแรกประมาณ 40 กิโลเมตร ก่อนจะวกรถย้อนกลับมายัง อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้ววิ่งเข้าตัวเมืองผ่านถนนเลียบชายทะเล โดยขับวนไปมานานกว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ สามารถสกัดหยุดรถไว้ได้ และควบคุมส่ง สภ.คลองวาฬ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด

เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น พบคนขับชื่อนายคงฤทธิ์ เสียงเพาะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 6 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ตรวจสอบเครื่องยนต์พบว่ามีการดัดแปลงและปรับแต่งให้มีความเร็วมากกว่าปกติ จากนั้นได้ทำการตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าว เมื่อเปิดผ้าพลาสติกคลุมกระบะออก พบชาวเมียนมาจำนวนมากยืนแออัดเบียดกันแน่นอยู่ท้ายกระบะ หน้าตาตื่นตระหนก สภาพอิดโรย มีเหงื่อไหลและกลิ่นตัวรุนแรง

โดยพบเป็นชาย 20 คน หญิง 12 คน รวมจำนวน 32 คน อายุระหว่าง 20-32 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเมียนมา จึงเรียกให้ทยอยลงจากรถยนต์กระบะคันดังกล่าว แต่ละคนมีกระเป๋าเสื้อผ้าขนาดไม่ใหญ่ติดตัวมาคนละใบ เมื่อตรวจสอบที่บริเวณพื้นกระบะ พบว่ามีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่วางเต็มพื้นกระบะ โดยใช้แผ่นยางปิดทับไว้หนึ่งชั้น สอบถามทราบว่าเพื่อช่วยระบายความร้อนจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ให้ความเย็นกระจายขึ้นมา ช่วยบรรเทาความร้อนให้กับกลุ่มคนที่บรรทุกมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองวาฬ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตชด.146 หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ฝ่ายมั่นคงอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ร่วมตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่า เดินทางมาจากเมืองเมาะละแหม่ง หรือเมาะลำไย ฝั่งตรงข้าม จ.กาญจนบุรี โดยเดินทางมายังบ้านมูด่อง เมืองมะริด เขตตะนาวศรี ประเทศเมียนมา ตั้งอยู่ตรงข้ามด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งใช้เวลาเดินทางนานกว่า 2 วัน

จากนั้นกลุ่มบุคคลทั้งหมดได้เดินเท้าลัดเลาะตามแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติข้ามฝั่งมายัง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย เพื่อหวังมาค้าแรงงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยมาพบกับนายหน้า เบื้องต้นแรงงานให้ข้อมูลว่าเสียค่าใช้จ่ายคนละ 750,000 จ๊าด หรือประมาณ 16,500 บาท เพื่อให้ช่วยนำพาไปยังประเทศมาเลเซีย แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยสังเกตเห็นและตรวจจับก่อน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน