จับคนขับรถ ยิงกระบะโดนสาวเจ็บ ฉุนแซงกันไปมา สารภาพลูกชายยิงเพิ่งพ้นโทษ
จากกรณีเกิดเหตุยิงกันบริเวณหน้าโรงเรียนเบญจมราชูทิศ อ.เมืองปัตตานี มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดระหว่างผู้ขับรถยนต์ทั้งสองคันมีปัญหากันขณะเข้าด่านตรวจ ทำให้รถคู่กรณีชักอาวุธปืนยิงใส่รถอีกคันจนทำให้ผู้หญิงที่อยู่ภายในรถกระบะได้รับบาดเจ็บ หลังก่อเหตุจึงเร่งเครื่องหลบหนีไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้มีการสืบสวนสอบสวนจนรู้เบาะแสรถที่ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิด เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำ วันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา
คืบหน้าล่าสุด วันที่ 29 เม.ย. พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนรู้เบาะแสข้อมูลเกี่ยวกับรถคันก่อเหตุ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สเปควากอน ทะเบียน ฌว 1423 กทม.และได้มีการไล่ภาพจากกล้องทุกตัว กระทั่งรู้ว่าผู้ที่ก่อเหตุขับหลบหนีเข้าไปในพื้นที่ ต.บาราโฮม อ.เมืองปัตตานี จึงสั่งการให้นำกำลังเข้าตรวจค้นจนสามารถยึดรถคันดังกล่าวได้หน้าบ้านเช่าตรวจสอบพบว่าเป็นรถคันเดียวกันที่ปรากฏในภาพ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว นายมูหะมัดยากี สาแม อายุ 46 ปี ซึ่งยอมรับว่าช่วงเกิดเหตุเป็นคนขับ ส่วนคนที่ใช้อาวุธปืนยิงนั้นคือ นายฮากิม สาแม อายุ 26 ปี ลูกชายของตนซึ่งขณะหนีไปไม่รู้ว่าอยู่ไหน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองปัตตานี พร้อมกับนำรถคันก่อเหตุไปด้วยและอาวุธปืนสั้นอีก 2 กระบอกซึ่งตรวจยึดได้ภายในบ้านเช่า
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
พ.ต.อ.ญาณพงศ์ กล่าวต่อว่า เหตุครั้งนี้เกิดจากบันดาลโทสะขับรถปาดกันไปกันมาหลังจากเกิดขึ้นที่ด่านตรวจ ถ.หนองจิก ซึ่งผู้ที่ยิงคือคนที่นั่งอยู่ในรถมิตซูบิชิ ใช้อาวุธปืน ขนาด .357 ยิง 2 นัดถูกคนที่นั่งในรถกระบะบาดเจ็บ คือ นส.นูรีดา จารง อายุ 29 ปี กระสุนถูกที่ข้อมือซ้ายแพทย์ได้ทำการผ่าตัดนำกระสุนออกแล้ว
ส่วนผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิง คือ นายฮากิม สาแส อายุ 26 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป และได้จับกุมคนขับ คือ นายมูหะมัดยากี ซึ่งเป็นพ่อของ นายฮากิม ขณะนี้อยู่ในระหว่างสอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าขับรถปาดกันไปปาดกันมาก็เกิดบันดาลโทสะและไม่คิดว่าลูกชายจะอารมณ์ร้อนชักปืนยิง ขณะนี้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมนายฮากิม พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยประสานทางญาติว่าหากพบตัวก็ให้นำมามอบตัว ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานและให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ด้าน นายมูหะมัดยากี กล่าวว่า ตนจะขับรถเข้าด่านแต่รถกระบะไม่ยอม เมื่อพ้นด่านก็ให้รถคู่กรณีไปก่อน แต่ก็มีการขับแซงไปแซงมา งตนก็กลัวเหมือนกัน พอมาถึงที่แยกไฟแดงรถกระบะคู่กรณีก็ขับปาดหน้า ช่วงนั้นก็ไม่ทันสังเกตว่าลูกชายมีปืนมาแล้วยิงใส่รถกระบะ หลังก่อเหตุก็ขับรถกลับบ้าน คนที่ใช้ปืนยิงเป็นลูกชายตนเอง ตอนนี้ไม่รู้ไปไหนถ้ารู้ก็จะนำตัวลูกชายมามอบตัว ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ซึ่งลูกชายเป็นคนอารมณ์ร้อน ถ้าลูกชายขับอาจเละกว่านี้
นายมูหะมัดยากี กล่าวต่อว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดขึ้น เพราะลูกชายเพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าเพียง 7 เดือน ตนไม่ได้จะคิดหนี เมื่อเกิดเหตุตนก็ขับหลบบ้านรู้ว่าผิดกฎหมายที่ใช้อาวุธยิง เมื่อมาถึงบ้านลูกชายก็หายตัวไปแล้ว เหตุที่ไม่จอดรถเมื่อคืนตนก็กว่าจะมีเรื่องมากว่านี้ ตนขอโทษอีกฝ่ายที่เกิดเรื่องแบบนี้ หลังประกันตัวตนจะไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บและจะดูแลเยียวยาคู่กรณีเพราะเราไม่อยากมีปัญหากัน
