วันที่ 9 พ.ค. พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม ผกก.สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ร.พ.สมเด็จพระยุพราชฉวาง มีเด็กจมน้ำ 2 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.วรุฒิพงษ์ วัฒนะปรีชาพงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ฉวาง พร้อมตำรวจชุดสอบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ เดินทางชันสูตรศพผู้เสียชีวิตร่วมกับแพทย์ที่โรงพยาบาลดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบศพ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 6 ขวบ และ ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบ ซึ่งเป็นพี่น้องกัน โดยมี นางพลวัตน์ เนาวนัด อายุ 46 ปี ผู้เป็นยายและญาติอีกหลายคนมาดูอาการของเด็ก เมื่อรู้ว่าเสียชีวิตก็อยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก
จากการสอบปากคำ นางพลวัตน์ ให้การกับตำรวจทั้งน้ำตาว่า ตนเป็นคนเลี้ยงดูหลานทั้ง 2 คน เนื่องจากพ่อกับแม่เด็กแยกทางกัน ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นวานนี้ (8 พ.ค.) ตนได้ออกไปธุระนอกบ้าน ปล่อยให้หลานอยู่บ้านตามลำพัง จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ได้กลับเข้าบ้านแต่ไม่พบเห็นหลาน จึงออกติดตามสอบถามบ้านญาติๆ ข้างเคียงก็ไม่มีผู้ใดพบเห็น
“จากนั้นได้ไปตรวจสอบบริเวณหนองน้ำห่างจากบ้านประมาณ 60 เมตร พบรองเท้าหลานวางอยู่ริมตลิ่งและลอยอยู่ในหนองน้ำ เชื่อว่าหลานทั้ง 2 ลงไปเดินเล่นแล้วพลัดตกจมอยู่ในหนองน้ำ ก่อนจะไปตามเพื่อนบ้านมาช่วยงมหาหลานทั้ง 2 กระทั่งพบร่างจมอยู่ใต้น้ำ สภาพหมดสติ จึงรีบนำส่ง ร.พ.สมเด็จพระยุพราชฉวาง โดยแพทย์พยาบาลได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถยื้อได้และเสียชีวิตในที่สุด” นางพลวัตน์ กล่าว
พ.ต.อ.สุทัศน์ กล่าวว่า การตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า ก่อนหน้านั้นหนองน้ำแห้งขอด ต่อมาเจ้าของได้นำรถแบกโฮมาขุดลอกเพื่อนำน้ำไปใช้ในการเกษตร ทำให้ระดับน้ำลึก ริมตลิ่งลาดชันสูงเป็นดินทราย มีกอไผ่ปกคลุมถ้าไม่สังเกตจะมองไม่เห็น เชื่อได้ว่าเด็กทั้ง 2 คนได้ไปเล่นน้ำริมตลิ่งและพลัดตกลงไป แล้วช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำให้สำลักน้ำกว่าจะมีคนมาเจอก็หมดสติและช่วยไม่ทันทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
