2ขวบเจอโรครุม เหลือแต่หนังติดกระดูก พ่อแม่ทรุดรายจ่ายล้น ต้องอาศัยบนแพ

2ขวบเจอโรครุม เหลือแต่หนังติดกระดูก / วันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่แพเลขที่ 100/9 ถนนพุทธบูชา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีครอบครัวยากจน ต้องดูแลลูกชายวัยเพียง 2 ขวบ 6 เดือน ซึ่งพิการซ้ำซ้อนตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ร่างกายผอมแห้งเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก แม่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ความเป็นอยู่มีลำบาก จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่แพดังกล่าวพบ น.ส.ขนิษฐา บุญสอน อายุ 21 ปี และ นายพีระพงษ์ พรมใต้ อายุ 20 ปี สองสามีภรรยากำลังดูแล ด.ช.ชญานันท์ พรมใต้ หรือน้องตี๋ อายุ 2 ปี 6 เดือน ลูกชายคนที่ป่วยพิการซ้ำซ้อนต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะมีโรคประจำตัวคือสมองฝ่อไม่สั่งงาน ปอดติดเชื้อรุนแรง และเป็นลมชัก และไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง แขนขาผิดรูปตั้งแต่กำเนิด ต้องเจาะคอให้นมและอาหารปั่นละเอียดทางสายยาง ร่างกายซูบผอม เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก

น.ส.ขนิษฐา เปิดเผยว่า ตอนตั้งท้องน้องตี๋ทุกอย่างปกติดี จนกระทั่งช่วง 7 เดือน เริ่มผิดสังเกตน้องไม่ค่อยดิ้น และคลอดน้องตอน 8 เดือน หมอบอกร่างกายผิดรูปร่างกายเขียวคล้ำ เพราะตอนแรกคลอดไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ ต้องเข้าห้องไอซียูเด็กแรกเกิด และต้องเจาะคอช่วย เพื่อให้อาหารทางสายยางและดูดเสมหะตลอดเวลา ซึ่งรักษาตัวอยู่เกือบปี

จนแพทย์บอกว่าต้องรักษาตามอาการเพราะน้องมีปัญหาสมองฝ่อ ไม่สามารถสั่งงานได้ ปอดติดเชื้อรุนแรง ตามองไม่เห็น แขนขาไม่สามารถที่จะเดินได้ และไม่มีวิธีรักษาทำได้เพียงดูแลน้องตี๋ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทุกวันนี้ต้องคอยดูแลน้องตี๋อย่างใกล้ชิด เพราะน้องจะมีอาการชักตลอด ต้องคอยจับเวลาน้องชัก และต้องคอยดูดเสมหะเพราะน้องจะสำลักน้ำลาย สำลักนมบ่อย เวลาให้อาหารต้องให้ทางสายยาง ซึ่งต้องเป็นอาหารปั่นละเอียดเท่านั้น

น.ส.ขนิษฐา กล่าวต่อว่า ตอนนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะตนไม่สามารถทำงานได้ ส่วนสามีเป็นลูกจ้างรับจ้างทำฝ้า รายได้วันละ 400 บาท แต่ไม่ได้มีงานทุกวัน ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายทางครอบครัวค่อนข้างสูง ต้องดูแลแม่ของตน อายุ 50 ปี อีกหนึ่งคน เพราะแม่ต้องคอยช่วยตนดูแลน้องตี๋และลูกสาวคนเล็กอีก 1 คน อายุ 11 เดือน แต่ร่างกายแข็งแรงดี ลำพังค่าแรงของสามีไม่เพียงพอ

ล่าสุดแพที่พักอาศัยเพิ่งโดนตัดไฟฟ้า เพราะตนไม่มีเงินจ่าย ต้องหอบลูกมาอาศัยแพของป้า เพราะน้องตี๋ต้องใช้เครื่องดูดเสมหะตลอดเวลา ตอนนี้นมผงของน้องตี๋ก็ใกล้จะหมดแล้ว รวมถึงแพมเพิส ที่ต้องใช้เปลี่ยนวันละ 2-3 ชิ้น เพราะป้องกันเกิดแผลกดทับ ซึ่งทั้งนมและแพมเพิสค่อนข้างจะราคาสูง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

น.ส.ขนิษฐา กล่าวอีกว่า อยากจะวิงวอนขอความช่วยเหลือจากผู้มีจิตศรัทธาให้ช่วยเหลือน้องตี๋ได้มีนมได้กิน ซึ่งเป็นนมผงสูตร 3 ยี่ห้ออะไรก็ได้ แพมเพิสแบบเทปกาวไซส์ S หรือหาต้องการโอนเงินช่วยเหลือสามารถโอนได้ทางเลขที่บัญชี 985-3-95560-1 ธนาคารกรุงไทย สาขาโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ชื่อบัญชี นางสาวขนิษฐา บุญสอน หรือโทร 098-184-6760


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน