จนท.สมุทรสาคร บุกจับร้านทำสังฆทานไร้มาตรฐาน บรรจุเองไม่ขออนุญาต อย.
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร พร้อมนายชัยวัฒน์ วิเศษการ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร, ภญ.อรุณศรี บุญมาศิริ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร, สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร, ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสมุทรสาคร, ทหาร และตำรวจ
เข้าตรวจสอบสถานที่บรรจุชุดสังฆทาน ชื่อว่า บจก.โอวเล้งผลิตภัณฑ์ ตั้งอยู่เลขที่ 88/77 หมู่ที่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังจากได้รับเรื่องส่งต่อมาจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภคของ จ.สุโขทัย ที่มีการออกตรวจร้านจำหน่ายชุดสังฆทาน และพบว่ามีผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในสังฆทานไม่ได้มาตรฐาน อย. และเลขทะเบียนหมดอายุ จึงส่งเรื่องมาให้จังหวัดสมุทรสาครตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบว่า สถานที่แห่งนี้มีการบรรจุชุดสังฆทานเป็นจำนวนมาก มีแรงงานข้ามชาติกว่า 20 คน กำลังบรรจุชุดสังฆทานกันอยู่ และมีเครื่องจักรที่กำลังบรรจุผงเครื่องดื่มใส่ถุงเล็กๆ และมีผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เช่น เบาะรองนั่ง กล่องพลาสติก เครื่องดื่มผง น้ำดื่ม ยาแก้ปวด ยาแก้ไอ สบู่ น้ำยาล้างจาน เป็นต้น
เมื่อตรวจสอบ อย. พบว่าเลขทะเบียนหมดอายุไปแล้ว ทางเจ้าของไม่ได้ไปดำเนินการต่ออายุ จึงเข้าข่ายเป็นอาหารปลอม ส่วนเรื่องการนำผงชาแบบเป็นถุงใหญ่ แล้วนำมาแบ่งบรรจุใหม่นั้น เข้าข่ายการผลิตอาหาร จะต้องได้รับอนุญาตเรื่องการผลิตอาหารเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้ขออนุญาต ส่วนสบู่ที่ใช้ชื่อว่าของบริษัทโอวเล้งก็ไม่มีเลขที่จดแจ้งบนฉลาก จึงจะมีความผิดในหลายฐานความผิด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร ยังได้แนะนำเรื่องการบรรจุ เพราะส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นกล่องใหญ่ แต่ของที่บรรจุนั้นมีน้อย อยากให้ทางเจ้าของจัดชุดให้เหมาะสมกับขนาดของสิ่งของ อย่าหลอกตา เพราะเมื่อบรรจุไปแล้ว คนซื้อจะไม่สามารถแกะได้ว่าในกล่องนั้นมีของมากน้อยแค่ไหน เพราะฉลากที่ติดไว้ด้านนอกจะบอกแค่ว่าของในชุดสังฆทานมีอะไรบ้าง กี่ชิ้น ราคาเท่าไหร่
ด้านนายชีวิน วรวิชญวงศา ลูกชายเจ้าของบริษัท ยอมรับในความผิดเรื่องของ อย.ที่หมดอายุ ส่วนเรื่องการจัดชุดสังฆทานนั้น ให้เหตุผลว่า ทางบริษัทได้ปรับปรุงเรื่องการบรรจุมาอย่างต่อเนื่อง ของที่ใส่ได้มาตรฐานทุกอย่างแต่อาจมีผิดพลาดเรื่องฉลาก การขออนุญาต ซึ่งรับผิดในทุกเรื่องเช่นกัน
ภายหลังการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้อายัดผลิตภัณฑ์ที่ทำผิดเรื่องของ อย. และจะรวบรวมเอกสารหลักฐานอื่นที่มีการกระทำความผิดร่วมด้วย เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
