ฆ่าชิงทรัพย์ ยายเจ้าของร้านชำ ลูกช็อกนาทีเจอศพนึกว่าเส้นเลือดสมองแตก ที่แท้ฝีมือคนกันเอง

ฆ่าชิงทรัพย์ ยายเจ้าของร้านชำ ลูกช็อกนาทีเจอศพแม่ นึกว่าเส้นเลือดสมองแตก เห็นเลือดออกหู ตรวจดูเจอแผล สุดสลดที่แท้ฝีมือคนกันเอง เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ

ฆ่าชิงทรัพย์ วันที่ 28 ก.ค. พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.ภ.จว.สตูล, พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ ขวัญศรี ผกก.สภ.ทุ่งหว้า จ.สตูล, พ.ต.ท.ชาญวุฒิ รักษาพราหมณ์ รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.มาโนช สุทธิรักษ์ สว.สส., ร.ต.อ.กฤษฏา พฤษษะศรี รอง สว.สส. พร้อมกำลังควบคุมตัว นายสมศักดิ์ หรือนาฝี ตรีโกบ อายุ 31 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุฆ่า นางสำลี หนูหมาด อายุ 68 ปี ที่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 5 ต.ทุ่งบุหลัง อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายของผู้ตายมาพบศพเสียชีวิตในบ้านที่เปิดเป็นร้านชำ โดยพบว่าเงิน 10,000 บาท และสร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาทได้หายไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว กระทั่งทราบว่าคนร้ายคือ นายสมศักดิ์ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสตูล กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้

จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ได้ลงมือทำให้ นางสำลี ถึงแก่ความตายจริง โดยลอบเข้าไปทางประตูหลังบ้านกลางดึกแล้วถอดกลอนประตู เพื่อเข้ามาลักทรัพย์ แต่ นางสำลี เข้ามาพบเห็นเสียก่อนและพยามเข้ามาจับตัว ตนจึงใช้เหล็กแป๊บตีที่แขนและศีรษะจากห้องหลังบ้าน ก่อนตามมาตีต่อบนที่นอนหน้าบ้านแบบไม่ยั้งจนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นได้เข้าไปรื้อทรัพย์สิน โดยได้เงินไปเพียง 500 บาท ก่อนขี่ซาเล้งหลบหนีไปที่บ้าน กระทั่งถูกจับตัวได้

ด้าน นางมานัน จิตหลัง อายุ 66 ปี เพื่อนของผู้ตาย กล่าวว่า รู้สึกสะเทือนใจมาก เพราะตนเพิ่งพูดคุยกับผู้ตายและเล่าให้ฟังตนว่า เพิ่งเอาเงินมาทยอยจ่ายค่ากะปิให้กับลูกค้าที่สั่งมาขายเป็นร้อยกิโลกรัม เงินก็น่าจะมีในตัวประมาณหมื่นกว่าบาท อีกทั้งผู้ตายยังมีสร้อยข้อมือ 1 เส้นหนัก 1 บาทได้หายไปด้วย ปกติผู้ตายเป็นคนใจดี อยู่ร้านค้าเพียงลำพังมานานหลายปี เคยบอกว่าให้ย้ายไปอยู่กับลูกหลานซึ่งทำงานต่างอำเภอเพื่อให้เขาดูแลก็ไม่ยอมไป บอกแค่เพียงว่าอยากอยู่ที่บ้านหลังนี้ อยากขายของ แต่ลูกๆ หลานก็หมุนเวียนกันมาดูแลตลอด และเชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้ว่าผุ้ตายมีเงินมากจึงลงมือก่อเหตุ

ขณะที่ นายประชา หนูหมาด อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นผอ.รพ.สต.บ้านเขาแดง ลูกชายผู้ตาย กล่าวว่า นาทีแรกที่เข้าไปพบแม่ หลังเรียกแล้วไม่ตอบจึงได้พังประตูเข้ามาในบ้าน เห็นแม่นอนหงายเลือดไหลออกทางจมูกและหูบนที่นอน นาทีแรกคิดว่าแม่เส้นเลือดแตก แต่พอมาดูใกล้ๆ พบว่าไม่ใช่เสียชีวิตธรรมดา หลังพบบาดแผนที่ศีรษะ ข้างหู และแขนตามลำตาม ยิ่งทำให้ตกใจและไม่คาดคิดว่าจะมีคนเข้ามาทำร้ายแม่แต่อย่างใด

“ทันทีที่ทราบว่าตำรวจจับตัวคนร้ายได้และเป็นคนในหมู่บ้านยิ่งทำผมหดหู่ใจ เพราะคนที่จับได้เคยเห็นมาตั้งแต่เล็กๆ มาซื้อบ้านแม่ประจำ อยากรู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ทำไม่ต้องทำกับแม่ผมถึงขนาดนี้ อยากได้เงินขอแม่ดีๆ ก็ได้ ไม่น่าจะทำกันขนาดนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับเป็นเหตุสะเทือนขวัญคนในหมู่บ้านเพราะยาเสพติดที่มอมเมา อยากจะฝากถึงคนที่ไม่มีเวลาอยู่กับแม่หรือผู้ใหญ่ในครอบครัว หาเวลาให้เวลาพวกเขามากกว่านี้ เพราะสิ่งที่เราไม่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้นกับคนที่เรารักได้ อย่างไม่มีโอกาสได้แก้ตัวหรือเรียกกลับมา” นายประชา กล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังปิดกั้นพื้นที่เพื่อกันไม่ให้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะถูกรุมประชาทัณฑ์ เพราะมีลูก หลาน ญาติๆ รวมทั้งชาวบ้านมามุงดูการทำแผนครั้งนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์บานปลาย หลังเสร็จสิ้นการทำแผนจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหากลับไปสอบสวนเพิ่มเติม ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป