สั่งเสียพ่อให้มารับศพ หลังมีเรื่องขู่ญาติโอนที่ดิน ยิงเจ็บ 2 คน หนี ผูกคอ ในไร่ข้าวโพด เผยผู้ตายแค้นหลังถูกจับติดคุก 5 เดือน มีเรื่องกับญาติขู่ให้โอนที่ดินให้ แต่ไม่ได้ดังหวัง ขู่ฆ่ายกโคตร ก่อนมาก่อเหตุสลด
ผูกคอ วันที่ 6 ส.ค. เจ้าหน้าที่ ชรบ.ไผ่โทน จ.แพร่ จำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.แพร่ และตำรวจชุดสืบสวน สภ.ไผ่โทน รุดตรวจสอบผู้เสียชีวิตผูกคอที่กระท่อม ในป่าติดไร่ข้าวโพด หลังวัดปางยาว หมู่ 6 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ทราบชื่อคือ นายไพรัตน์ ชนสยอง อายุ 47 ปี ซึ่งได้ก่อเหตุยิงคนบาดเจ็บ 2 คน ที่หน้าร้านค้าบ้านปางยาว ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เมื่อกลางดึกวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์วางอยู่ข้างๆ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 14 ชั่วโมง
สืบเนื่องมาจากเมื่อกลางดึกวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ทินกร ชุมภูแสน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ไผ่โทน จ.แพร่ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่หน้าร้านค้าบ้านปางยาว ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง จ.แพร่ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อคือ นายบารมี เกี๋ยงพา อายุ 46 ปี ถูกยิงเข้าที่ชายโครงซ้าย และ นายมิถุนา คำหลวง อายุ 31 ปี ถูกยิงที่ขาซ้ายและแขนซ้าย จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายคือ นายไพรัตน์ ชนสยอง อายุ 47 ปี หลังเกิดเหตุได้ขับรถกระบะอีซูซุ สีดำ ทะเบียนหมายเลข บม 3352 ไปจอดไว้บริเวณวัดปางยาว ก่อนหลยหนีไป เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามตัวแต่ยังไม่พบ
นางอรุณศรี ตันยา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 กล่าวว่า นายไพรัตน์ มักมีเรื่องทะเลาะกับ นางดวงเดือน กาสร้อย อายุ 57 ปี กันหลายครั้งและเคยติดคุกมา 5 เดือน ในคดีบุกรุก พ้นโทษมาไม่ถึง 2 ปี ซึ่ง นายไพรัตน์ มักหาตนและนางดวงเดือน เสมอ เพราะแค้นที่ต้องติดคุก ซึ่งตนก็ต้องทำตามหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน ตนก็มักจะถูกนายไพรัตน์ หาเรื่องระรานมาตลอด เช่นงานบวชที่ของที่บ้านก็นำประทัดมาจุดบ้าง ก่อนเกิดเหตุตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า นางดวงเดือน กับ นายไพรัตน์ทะเลาะกันหรือไม่ ซึ่งตอนนั้นตนอยู่ที่บ้าน พอทราบเรื่องแจ้งตำรวจและมาดูที่เกิดเหตุ และได้โทรสอบถามทางวัดว่า นายไพรัตน์ ได้นำรถมาจอดที่วัดหรือไม่ เนื่องจาก นายไพรัตน์ มาช่วยปูนกระเบื้องที่วัดก็ทราบว่า ได้มาจอดทิ้งไว้จริงและได้หลบหนีไป
ขณะที่ นางดวงเดือน เจ้าของร้านขายของชำที่เกิดเหตุ เล่าว่า สาเหตุคือ นายไพรัตน์ ที่เป็นญาติห่างๆ ไม่พอใจเรื่องที่ดินที่ตนอยู่ เป็นชื่อของตน แต่ นายไพรัตน์ ได้พยายามมาข่มขู่ให้ตนเซ็นมอบให้ เพราะเข้าใจว่าที่ดินนี้เป็นของแม่นายไพรัตน์ ที่จริงได้ซื้อขายกันมานานแล้ว และตนไม่ยอมเซ็นให้เพราะว่าใบที่ดินก็จำนองอยู่ธนาคาร นายไพรัตน์ ก็โกรธและพยายามมาข่มขู่ตลอด แถมประกาศจะฆ่าล้างโคตรด้วย ตนก็อยู่อย่างไม่เป็นสุข กระทั่งมาก่อเหตุยิงเพื่อนบ้านและญาติเจ็บ 2 คน แต่พอมาทราบว่า นายไพรัตน์ เสียชีวิตแล้วก็เบาใจไม่กังวลว่าใครจะมาฆ่ามาทำร้ายอีก
ด้าน นายส่วย ชนสยอง อายุ 81 ปี พ่อของนายไพรัตน์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายไพรัตน์ ได้มาขอเงินตน 120 บาท บอกจะไปเติมเงินโทรศัพท์ และบอกตนว่าพรุ่งนี้ให้ไปรับศพด้วย จากนั้นก็ไม่พบลูกชายอีกเลย กระทั่งมาผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า นายไพรัตน์ น่าจะกลัวความผิด จึงหนีมาผูกคอเสียชีวิต ซึ่งได้ส่งศพไปชันสูตร ก่อนให้ญาติมารับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
