ชาวบ้านนับร้อย ขว้างหิน ตะโกนแช่ง ล้อม นายโอ อ้างอารมณ์ชั่ววูบ ทำยิงดับ 3 ชีวิต

วันที่ 3 ธ.ค. ที่ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบก.ตร.พล ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.สิทธิชัย ไกรแสง ผกก.สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง พร้อมชุดคลี่คลายในคดีนายนวราธร คุณะแสงคำ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นจนเสียชีวิตโดยเจตนา โดยยิง พ่อ แม่ ลูก เสียชีิวิตนั้น

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายนวราธร ไปคุมขังที่ห้องขัง สภ.บ้านดู่ แล้วได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียดพร้อมตรวจหลักฐานรถยนต์ที่ใช้หลบหนีจากที่เกิดเหตุไปยัง จ.เชียงใหม่ อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุจำนวน 4 ปลอก พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ รวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขณะเดียวกันได้เรียกสอบปากคำญาติของฝ่ายผู้เสียชีวิตและญาติของนายนวราธร ไปแล้วหลายคนทำให้เจ้าหน้าที่สามารถสรุปผลการคลี่คลายคดีในเบื้องต้นได้

ต่อมาเวลา 14.30 น. ได้นำตัวนายนวราธรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่เกิดเหตุซึ่งพบว่าได้มีญาติของฝ่ายผู้เสียชีวิตพร้อมญาติมิตรจำนวนมากพากันไปรอโดยแต่ละคนต่างพากันตะโกนด่าและสาปแช่งผู้ต้องหาว่าไม่ควรจะก่อเหตุฆ่ายกครัวทั้ง 3 คนดังกล่าว โดยเฉพาะตัวนายอุดมนั้นทางญาติและคนรู้จักที่เทศบาล ต.บ้านดู่ ต่างบอกเล่าถึงบุคลิกของนายอุดม ว่ามีอัธยาศรัยที่ดี จึงแทบไม่อยากเชื่อว่าถูกกระทำดังกล่าว

บรรยากาศการ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพเกือบเกิดเหตุโกลาหลเนื่องจากมีชาวบ้านและญาติของครอบครัวผู้เสียชีวิต จำนวนกว่า 200 คนมารุมด่า ผู้ต้องหา บางคนใช้ก้อนหินโยนเข้าใส่รถตู้ตำรวจ และพยายามจะบุกเข้าไปทำร้ายผู้ต้องหาให้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องคอยกัน และรีบนำตัวออกจากสถานที่เกิดเหตุ อย่าเร่งด่วน

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่าจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่าไม่เคยต้องโทษในคดีใดๆ มาก่อน แต่เป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบใช้อาวุธปืน ที่ผ่านมาทำงานเป็นคนรับแลกเปลี่ยนเงินตราทั้งในและต่างประเทศ และเมื่อถูกจับกุมแล้วสอบปากคำแล้วผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพด้วยดีว่าได้ยิงบุคคลทั้ง 3 คนจนเสียชีวิตจริง

โดยให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ออกไปเที่ยวกับ น.ส.สวรส ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งจากนั้นถึงช่วงกลางดึกได้เดินทางกลับแล้วเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน เมื่อถึงบ้านก็เกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงใช้อาวุธปืนที่ซื้อจากร้านแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย โดยมีทะเบียนถูกต้องยิง น.ส.สวรส จนเสียชีวิต

จากนั้นก็หันไปยิงนายอุดม และนางณัชชา ที่เป็นบิดาและมารดาของ น.ส.สวรส จนเสียชีวิตรวมยิงปืนไปทั้งหมด 4 นัด โดยบางคนถูกยิง 2 นัด ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าทำไปเพราะไม่ทันยั้งคิดและอาวุธปืนเก็บไว้ในกล่อง ไม่ได้ใส่ลูกกระสุน แต่เมื่อถูกท้าทายจึงห้ามอารมณ์ไม่ไหวจึงคว้ามายิงดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ตรวจสอบจากหลักฐานต่างๆ เช่น กระสุนปืน หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ฯลฯ มาประกอบอีกครั้ง

พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่าจากการตรวจสอบหลักฐานเจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานตั้งแต่ภาพที่มีการออกไปท่องเที่ยว การใช้ยานพาหนะ การแต่งกายของบุคคลต่างๆ ว่าสอดคล้องกับคำให้การหรือไม่ ฯลฯ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรวบรวมกับคำให้การของผู้ต้องหาและบุคคลที่เรียกสอบปากคำที่เกี่ยวข้องเพื่อจะพิจารณาว่าจะสามารถขยายผลไปดำเนินคดีกับบุคคลอื่นอีกหรือไม่

โดยเฉพาะหลังก่อเหตุแล้วผู้ต้องหาได้ขับรถไปยัง จ.เชียงใหม่ โดยมีบุคคลไปด้วยมากกว่า 1 คน กระนั้นจนถึงป้จจุบันก็ยังดำเนินคดีกับตัวนายนวราธรเพียงคนเดียวก่อนต่อไป

นายประชัญ ราชเมืองแก้ว อายุ 71 ปี อาของนางณัชชา กล่าวว่าพวกตนไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับครอบครัวของนางณัชชา เพราะโดยปกติก็ไม่เคยมีเรื่องราวกับผู้ใดแต่เมื่อมาประสบกับเรื่องเช่นนี้พวกตนก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเพราะยังไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนแล้ว ได้มีการนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดดงหนองเป็ด ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย และมีกำหนดจะจัดฌาปนกิจศพในวันพุธที่ 4 ธ.ค.นี้ต่อไป.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน