เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 22 เมษายาน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ วิมลโสภณกิติ นายอำเภออำเภอพังโคน จ.สกลนคร ได้เดินทางเป็นประธานงานประชุมเพลิง (เผาหลอก) พระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดสิริมงคล บ้านหนองหญ้าปล้อง และอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอพังโคน จ.สกลนครมรณภาพ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ต่อมาทางคณะสงฆ์และชาวบ้านได้นำสรีระ ใส่โลงเย็นไว้เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2560 เพื่อรอดำเนินการพระราชทานเพลิงศพ โดยมีกำหนดการ พระราชทานเพลิงศพในวันที่ 22 เมษายน 2560 (100 วัน) ศพตั้งไว้ที่ศาลาวัดสิริมงคล บ้านหนองหญ้าปล้อง ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 คณะสงฆ๋ในวัดพร้อมกรรมการวัดในหมู่บ้าน ได้เตรียมการที่จะนำสรีระพระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ ออกมาเพื่อจะทำการเคลื่อนสู่เมรุชั่วคราวในวัด แต่เมื่อเปิดโลงศพออกมากลับพากันแทบซ๊อก เมื่อไม่มีสรีระของพระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ คงมีแต่หมอนสามลูกวางเรียงใช้ผ้าจีวรคลุมคล้ายศพนอนอยู่ โดยไม่มีใครทราบว่าศพหายไปไหน ใครเป็นคนมาลักลอบไป
จนกระทั้งมีการนำคนเข้าทรงมาเข้าทรง ชี้ไป และชาวบ้านก็คนหาตามที่คนทรงบอกแม้กระทั่งการทุบพื้นที่รั่ววัด ตามที่คนทรงบอก ก็ไม่พบร่องรอยไร้วี่แววไม่มีสรีระของพระครูฯแต่อย่างใด
ในทางคดีเจ้าหน้าที่ ชุดสืบ บช.ภ.ภาค 4 และสืบ ภ.จว.สกลนครและพื้นที่ เร่งความหาตัวมือมืดที่มาลักลอบศพพระครูไปอย่างเร่งด่วน และได้เรียกผู้ที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกลุ่มบุคคลไปให้ปากคำ แม้แต่พระสงฆ์ในวัดก็ยังไม่คืบหน้า

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ วิมลโสภณกิติ นายอำเภออำเภอพังโคน .ได้ทำพิธีวางมาลาดอกไม้จันทร์และทอดผ้าบังสุกุลเหมือนศพทั่วไป จากนั้นก็มีประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานได้มีการวางถวายผ้าบังสุกุลท่ามกลางอากาศที่ร้อนยามบ่าย และบรรยากาศผู้คนบางตา โดยใช้เวลาไม่นาน จากนั้นในช่วงเย็นเวลา ประมาณ 22.00 น หรือ 4 ทุ่ม จึงจะมีการเผาอัฐบริขารในเมรุที่จัดไว้เหมือนเผาจริง ก็จะเสร็จ และในช่วงเช้าก็มีการทำบุญใสบาตรตามประเพณี ก็เป็นอันเสร็จพิธีการงานประชุมเพลิง

 

ในส่วนความคืบหน้าของคดี นั้นชุดสืบสวน บช.ภ.4 ที่ลงพื้นที่ร่วมกับฝ่ายพื้นที่ แจ้งว่า ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปหมดแล้ว รวมทั้งพระทั้งหมด ซึ่งในการให้ข้อมูลก็บอกตรงกันว่าไม่ทราบหายตอนไหน

 

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า มีพระในวัดแจ้งว่า ในช่วงประมาณวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 หลังจากที่นำสรีระพระครูใส่โลงเย็นแล้ว 1 เดือน ได้มีการนำช่างมาซ่อมพัดลม ซึ่งคาดว่าน่าจะมีส่วนหายในช่วงนั้น เนื่องจากคิดว่า หากมีการเปิดโลงและดึงออกมาช่วงนั้นอากาศร้อน เมื่อข้างในโลงเป็นแอร์เย็นถึงขั้นจับน้ำแข็ง ความร้อนถูกดูดเข้าไป อาจเป็นไปได้ที่ทำให้พัดลมเสียได้ ดังนั้น จึงต้องนำทั้งช่างและผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำให้ชัดเจน เพราะจากนั้นมาก็ไม่มีการเปิดโลงอีก ซึ่งก็บอกตรงกันว่า มีผ้าจีวรคลุมเหมือนศพทั่วไปแต่ไม่ได้เปิดดู

 

จากประเด็นดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้นำผู้เกี่ยวข้องมาสอบถามรวมทั้งพระสงฆ์ด้วย ส่วนแนวทางยังให้น้ำหนักไปที่กลุ่มเครือญาติและเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของพระที่มรณภาพเอง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าขบวนการนี้มีไม่น้อยกว่า 4 -5 คน เนื่องจากการมาเก็บศพหรือนำศพออกไป จะต้องมีเปลและอาจมีชุดที่เคยเก็บศพมาเกี่ยวข้อง และนำศพไปเผาทำลายตามเมรุไปแล้ว และขณะนี้เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานการเชื่อมโยงกลุ่มบุคคลและเป้าหมาย โดยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ คนที่ใกล้ชิดกับพระครูฯและมีใครหายไปผิดปกติหรือไม่อย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน