น้ำทะลักท่วมรพ.!! ระทึกย้ายผู้ป่วย น้ำสูงเกือบเมตรพัดรถหน้าห้างฯ จนท.รุดช่วย(คลิป)

ระทึกย้ายผู้ป่วยจ้าละหวั่นกลางดึก กว่า 50 ราย หลังน้ำทะลักไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลพรานกระต่าย จากสถานการณ์น้ำท่วมอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ล่าสุดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลพรานกระต่ายกลางดึก โดยลำเลียงไปยังโรงพยาบาลอำเภอใกล้เคียงที่ปลอดภัย พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ถนนสายกำแพงเพชร พรานกระต่ายใช้สัญจรได้แล้วจากกรณีสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ของเขตเทศบาลตำบลพรานกระต่ายตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 17 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นมา พื้นที่ย่านเศรษฐกิจของอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขัง พื้นที่ทางการเกษตรหลายพันไร่จมอยู่ใต้น้ำ

ล่าสุดช่วงกลางดึกเวลา 02.00 น. วันที่ 18 พ.ค. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน กู้ภัยข้าวภาพกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลพรานกระต่าย ได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่บนรถยนต์ถูกกระแสน้ำพัดพา จอดอยู่บนถนนสายกำแพงเพชร สุโขทัย บริเวณหน้าห้างโลตัส ทางแยกเข้าโรงพยาบาลพรานกระต่าย กว่า 5 คัน จำนวนกว่า 10 คน ซึ่งได้ถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมอย่างฉับพลัน ระดับน้ำสูงถึง 70 เซนติเมตร ทำให้ไม่สามารถขับรถหรือว่าหลบหนีขึ้นไปอยู่ที่สูงได้ทัน ส่งผลให้ต้องติดอยู่ภายในรถ รอการช่วยเหลือท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ล่าสุดทาง หน่วยกู้ภัยได้นำรถโฟร์วีลล์ยกสูง และทางทหารได้นำรถบรรทุกที่ใช้สำหรับลำเลียงกำลังพล มาช่วยเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยดังกล่าวออกจากพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว

ส่วนถนนนั้นต้องปิดสัญจรไปมาไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำสูงขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลพรานกระต่าย ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว ก็ถูกน้ำป่าหลากเข้าท่วมเต็มพื้นที่โรงพยาบาล ระดับน้ำสูงถึง 50 เซนติเมตร ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลไม่สามารถอยู่รักษาผู้ป่วยได้ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง นำรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่มีอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 50 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยหนักติดเตียง จำนวน 10 ราย และผู้ป่วยทั่วไป จำนวน 28 ราย นำส่งโรงพยาบาลในเขตอำเภอใกล้เคียง ประกอบไปด้วย โรงพยาบาลอำเภอลานกระบือ โรงพยาบาลอำเภอไทรงาม และโรงพยาบาลจังหวัดกำแพงเพชร ส่วนผู้ป่วยที่พอจะเดินทางไปพักฟื้นที่บ้านได้ แพทย์ก็อนุญาตให้ทางครอบครัวหรือญาตินำตัวกลับไปที่บ้านได้ส่วนสาเหตุนั้น เกิดจากฝนที่ตกหนัก ติดต่อกัน 4 วัน จึงทำให้มีน้ำป่าจากบ้านหนองทอง บ้านใหม่โพธิ์พัฒนา บ้านหนองตากล้า และบ้านบ่อโพง ได้ไหลหลากเข้าท่วมในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลพรานกระต่ายอย่างรวดเร็ว

ด้านนายอานนท์ อภิชาตตระกูล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพรานกระต่าย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ได้ร่วมช่วยเหลือประชาชนกันตลอดทั้งวันจนดึกดื่นถึงเวลานี้ก็ยังไม่ได้พักผ่อน และยังออกสำรวจตามบ้านเรือนประชาชน และสลับกัน เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเนื่องจากยังมีฝนตกระดับน้ำยังคงทรงตัวอยู่ขณะนี้และมีรายงานล่าสุด ถนนสายกำแพงเพชร พรานกระต่าย หมู่ 6 บ้านหนองน้ำใส อำเภอพรานกระต่าย เขตติดต่อกับ บ้านคลองห้วยทราย ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ถูกน้ำท่วมตัดขาด สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติระดับน้ำลดลง รถสามารถสัญจรไปมาได้บ้างแล้ว และมีประกาศปิดเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ 1 วัน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ขณะที่ จ.เพชรบูรณ์ หลังเกิดฝนตกอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่เพชรบูรณ์ตลอดทั้งวัน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ มีบ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม

ทั้งนี้ฝนได้ตกอย่างหนักคลอบคลุมพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 17 พ.ค.2560 และตกต่อเนื่องตลอดทั้งวันถึงช่วงกลางคืน ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ได้รับรายงานว่า มีกระแสน้ำป่าไหลหลากลงจากเขาและเข้าท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่บ้านนา ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ น้ำป่าจากเทือกเขาท่าพล ได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน ราว 50 หลังคาเรือน ประกอบกับมีเศษสวะต้นไม้ ถูกกระแสน้ำพัดไหลตามลงมาด้วย ทำให้ไปอุดตันขวางคลองระบายน้ำ กระทั่งน้ำไหลไม่สะดวก ทาง อบต.นางั่ว และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารม้าที่ 26 ได้นำเครื่องจักร มาช่วยกันลอกเศษสวะที่กีดขวางบริเวณสะพานบ้านนา ทำให้น้ำไหลสะดวกขึ้น ส่วนกำลังพลได้ช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของไปอยู่บนที่สูง

เช่นเดียวกับที่ตำบลบุ่งคล้า อ.หล่มสัก น้ำป่าจากเทือกเขาค้อ ได้ไหลหลากมาในช่วงดึก เข้าท่วมบ้านเรือน กว่า 50 หลังคาเรือน ซึ่งกำลังทหารกว่า 50 นายจากกองพันทหารม้าที่ 28 ได้มาช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของ ตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ขณะที่ทางจังหวัด ได้มีคำสั่งกำชับให้กำนันผู้ใหญ่บ้านและอบต. โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีหมู่บ้านเสี่ยงภัยให้เฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนตกและกระแสน้ำป่าอย่างใกล้ชิด และแจ้งให้ประชาชนเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ หากเกิดอุทกภัยขึ้นฉับพลัน คาดว่าจะสามารถป้องกันและช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีได้